การรักษาสัญญา
ครั้นเมื่อพวกเราเดินทางถึงเมืองฮะมะดาน ก็มีโจรกลุ่มหนึ่งออกมาเพื่อปล้นสะดมพวกเรา พวกนั้นได้ปล้นเอาทรัพย์สินในกองคาราวานไปทั้งหมด โจรคนหนึ่งก็ผ่านมายังฉันและถามฉันว่า : “ในตัวเจ้ามีทรัพย์สินอันใด?” ฉันก็บอกว่า : “มีเงินอยู่ 40 ดีน๊าร” โจรผู้นั้นเข้าใจว่าฉันพูดเล่น เขาจึงปล่อยฉันไป
ต่อมาก็มีโจรอีกคนหนึ่งพบเห็นฉันเข้า จึงถามว่า: ในตัวเจ้ามีทรัพย์สินอันใด? ฉันก็บอกกับโจรผู้นั้นถึงจำนวนเงินที่ฉันมีอยู่ เขาจึงนำตัวฉันไปหาหัวหน้าโจร หัวหน้าโจรก็ถามฉัน ฉันก็บอกกับเขาไปตามนั้น หัวหน้าโจรจึงกล่าวว่า : อันใดที่ทำให้เจ้าต้องพูดความจริงด้วย! ฉันจึงกล่าวว่า : ฉันได้ให้สัญญากับแม่ของฉันเอาไว้ว่าจะพูดความจริง! ฉันจึงเกรงว่าจะผิดสัญญาที่ให้กับนางไว้!
ความกลัวจึงครอบงำหัวหน้าโจรผู้นั้น พลางตะโกนร้องและฉีกเสื้อผ้าของตน พร้อมกล่าวว่า : เจ้ากลัวว่าจะผิดสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ของเจ้า แต่ข้ากลับไม่เกรงกลัวที่จะผิดสัญญาของพระองค์อัลลอฮ! ต่อมาหัวหน้าโจรก็สั่งให้ลูกน้องของตน มอบสิ่งที่พวกตนได้ปล้นสะดมจากกองคาราวาน และกล่าวขึ้นว่า: “ข้าสำนึกผิดและกลับเนื้อกลับตัวต่อพระองค์อัลลอฮแล้วด้วยน้ำมือของเจ้า”
พวกชุมโจรจึงกล่าวกับหัวหน้าโจรของพวกเขาว่า : ท่านเป็นหัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่ของเราในการปล้นสะดมภ์ตามรายทาง มาวันนี้ ท่านเป็นผู้นำของพวกเราในการกลับเนื้อกลับตัว เหล่าโจรทั้งหมดจึงสำนึกผิดและกลับตัวเป็นคนดี ด้วยผลแห่งความมีสิริมงคลของการพูดความจริง
(คัดจาก ตัรบียะตุ้ลเอาล๊าด 1/185)