ลักษณะอาญาและบทลงโทษในกฎหมายอิสลาม : 8. การละทิ้งการละหมาด

ความสำคัญของการละหมาด

การละหมาด  (อัศ-ศ่อลาฮฺ)  ถือเป็นเครื่องสำแดงความเป็นอิสลามอันดับแรกในวิถีชีวิตของชนมุสลิม  ดังนั้นเมื่อมุสลิมละทิ้งการละหมาด  ก็เท่ากับว่ามุสลิมผู้นั้นกำลังนำพาตนเองไปสู่การปฏิเสธ  (กุฟร์)  ซึ่งท่านนบีฯ (صلى الله عليه وسلم)  ได้กล่าวว่า  :   إِنَّ بَيْنَ الَّرجُلِ و بَيْنَ الشِّرْكِ وَالْكُفِر تَركَ الصَّلاَ ةِ  “แท้จริงระหว่างบุคคลและระหว่างการตั้งภาคีกับการปฏิเสธนั้นคือการละทิ้งการละหมาด”  (รายงานโดยมุสลิม  -82-)

ข้อชี้ขาดผู้ละทิ้งการละหมาด

ผู้ละทิ้งการละหมาดมี  2  ประเภท  คือ

1.  บุคคลที่ละทิ้งการละหมาด  โดยไม่เชื่อว่าการละหมาดเป็นสิ่งจำเป็น  (วาญิบ)  หรือเห็นว่าการละหมาดเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญ  บุคคลผู้นั้นถือเป็นผู้ตกศาสนา  (มุรตัด)  หรือสิ้นสภาพจากการเป็นมุสลิมแล้ว

2.  บุคคลที่ละทิ้งการละหมาดโดยเชื่อว่าการละหมาดเป็นสิ่งจำเป็น  (วาญิบ)  แต่ละทิ้งเนื่องจากความเกียจคร้าน  เป็นต้น  บุคคลผู้นี้ถือเป็นผู้ประพฤติผิดบาปใหญ่และเป็นคนเลว  (ฟาซิก)

บทลงโทษผู้ละทิ้งการละหมาด

ผู้ละทิ้งการละหมาดจะถูกใช้ให้สำนึกผิดและกลับตัว  (เตาบะฮฺ)  และทำการละหมาด  แต่ถ้าหากเขายืนกรานที่จะละทิ้งการละหมาดก็จะต้องถูกลงโทษประหารชีวิต  ถึงแม้จะเป็นการละหมาดเพียงเวลาเดียวก็ตาม  ทั้งนี้มีหลักฐานจากอัลหะดีษระบุว่า  :

أمِرْتُ أَنْ أُقَاتِلَ النَّاسَ حَتّى يَشْهَدُوْاأَنْ لاَإِلهَ إلا الله وأنَّ محمدً ارَسُولُ اللهِ  ،

ويُقِيْمُواالصَّلاَةَ ويُؤْتُواالزَّكَاةَ  ،  فإذافَعَلُوْاذٰلِكَ عَصَمُوْامِنِّىْ دِمَاؤَهُمْ

وأَموالَهُمْ إِلاَّبِحَقِّ الإِسْلاَمِ  ،  وحِسَابُهُمْ عَلَى اللهِ

“ฉันได้ถูกบัญชาให้รณรงค์กับผู้คนทั้งหลายจนกว่าพวกเขาจะปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าองค์ใดนอกจากอัลลอฮฺ  และแท้จริงมุฮัมมัดคือศาสนทูตของอัลลอฮฺ  และจนกว่าพวกเขาจะดำรงการละหมาดและจ่ายซะกาต  ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้กระทำสิ่งดังกล่าวแล้ว  พวกเขาก็ได้ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของพวกเขาจากฉันแล้วเว้นเสียแต่ด้วยสิทธิแห่งอิสลาม  และการพิพากษาพวกเขาเป็นกิจของอัลลอฮฺ”

(รายงานโดยบุคอรี  -25-/มุสลิม  -22-)

ผลที่เกิดขึ้นจากการลงโทษ

ผู้ที่ละทิ้งการละหมาดอันเนื่องจากเกียจคร้านเมื่อเขาถูกประหารชีวิตตามโทษานุโทษแล้ว  ก็ให้ปฏิบัติกับศพของเขาเช่นเดียวกับชาวมุสลิมทั่วไปในเรื่องการจัดการศพและการลงโทษประหารชีวิตกับผู้กระทำผิดไม่มีผลแต่อย่างใดในเรื่องความสัมพันธ์ทางเครือญาติ  โดยญาติมีสิทธิสืบมรดกของเขาได้  และข้อกำหนดว่าด้วยการสมรสก็ยังคงดำเนินอยู่สำหรับภรรยาของเขา  ไม่ว่าจะเป็นการตั้งกำหนดเวลาครองตน  (อิดดะฮฺ)  และการไว้ทุกข์ให้แก่สามี