الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد...؛
ถ้าเป็นไปตามข้อมูลที่ให้มาก็ตอบได้ดังนี้
1. การกระทำของคณะกรรมการบริหารมัสญิดดังกล่าวถือเป็นความบกพร่องในหน้าที่รับผิดชอบ เพราะไม่รักษาสิทธิประโยชน์อันพึงมีพึงได้แก่การบริหารทรัพย์สินของมัสญิด และเข้าข่ายว่าละเลยไม่คำนึงถึงเงื่อนไขและเป้าหมายของผู้ทำการอุทิศ (วากิฟ) ที่กำหนดเอาไว้ในคำอุทิศ
2 , 3 คณะกรรมการบริหารมัสญิดไม่มีอำนาจในการยกหนี้ค่าเช่าค้างชำระดังที่กล่าวมา เพราะผู้มีสิทธิยกหนี้ต้องมีกรรมสิทธิ์ครอบครองในหนี้สินผูกพันนั้นและทรัพย์สินของมัสญิดที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ (ที่ดิน) ซึ่งได้มาด้วยการอุทิศ ( วักฟ์) นั้นเป็นทรัพย์สินส่วนรวมอันถือเป็นศาสนสมบัติคือเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ผู้อุทิศ (วากิฟ) ก็ไม่มีสิทธิครอบครองเป็นของตน ผู้ที่ถูกอุทิศให้ (เมาวฺกูฟ อะลัยฮฺ) ก็ไม่มีกรรมสิทธิ์ครอบครองเป็นของตน คณะกรรมการฯ ในฐานะผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ก็ไม่มีกรรมสิทธิ์ครอบครองในทรัพย์สินที่ถูกอุทิศและประโยชน์ที่ได้จากทรัพย์สินที่ถูกอุทิศนั้นเป็นการส่วนตัวเช่นกัน เหตุนี้คณะกรรมการฯ จึงไม่มีสิทธิในการยกหนี้สินผูกพันอันเกิดจากการใช้ประโยชน์ของทรัพย์สินที่ถูกอุทิศนั้น และถือว่าเป็นการทำให้เสียสิทธิประโยชน์อันพึงมีพึงได้แก่มัสญิดอีกด้วย
4. ได้ครับ! และต้องเป็นเช่นนั้นกล่าวคือ หากมีผู้รับประกันการชำระหนี้สินที่ค้างชำระแทนจะเป็นคณะกรรมการฯ ทั้งหมดร่วมกันลงขันหรือผู้หนึ่งผู้ใดรับชำระหนี้แทนจะเป็นกรรมการหรือไม่ใช่กรรมการฯ ก็ได้ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ตามหลักการของศาสนา และนี่เป็นทางออกสำหรับการแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในกรณีที่ถามมา!
والله أعلم بالصواب