จะ ว่า ยังงัย (คำสั่งเสียของผู้ตาย ให้เคลื่อนย้ายศพไปยังอีกสถานที่หนึ่ง)  (อ่าน 6339 ครั้ง)

ABUL_AMFAL

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 4
สลาม อาจารย์ครับ
    มีเรื่องเรียนถามอีกแล้วครับ  ชายคนหนึ่งเปนมุอัลลัฟ(อะศ้อลเดิมคน นครสวรรค์) แต่งงานกับภรรยาเปนมุสลิมะห์(แขกปาทาน)แต่ภรรยาได้เสียชีวิตไปแล้ว เขา(ชายคนนั้น)ก้อยุกับลูก สาว2คนเรื่อยมา แล้วเขา (ชายคนนั้น)มีโรคประจำตัวเจ็บออด๐แอดๆ แล้ววันหนึ่งเขาก็สั่งกับลูกของเขาว่า ถ้าพ่อตายให้เอาพ่อกลับนครสวรรค์ จะไปหาญาติพี่น้องเขา ขณะนั้นแม่บ้านที่ทำงานอยุที่บ้านของเขาก็ได้ยินสิ่งที่เขาสั่งกับลูกสาวเขาด้วย(แม่บ้านเป็นมุสลิมะ) แล้วเขาก็ตายลง โดยที่ลูกสาวทำงานอยูเมืองนอก
มีแต่แม่บ้านที่คอยดูแลอยู่ และแม่บ้านก็รู้ดีอยุว่าถ้าเอากลับ นครสวรรค์จะเป็นยังงัย(ไช่มุสลิมเรา) แม่บ้านก็ไปปรึกษากับกรรมการมัสยิดที่ตนเป็นสัปบุรุษอยู่ กรรมการมัสยิดก็บอกว่าถ้าไม่ใช่สัปบุรุษต้องเสียเงินค่าจัดการศพ 5000 บาททางมัสยิดจะจัดการทุกอย่างให้
แต่ลูกสาวโทรมาจากเมืองนอกย้ำแม่บ้านว่าให้เอาพ่อกลับนครสวรรค์เพราะว่าพ่อสั่งไว้(วะซียะห์) ตัวเองคงกลับคงกลับไม่ทัน
แม่บ้านก็เลยเอามัยยิตกลับนครสวรรค์โดยใช้บริการรถมูลนิธิเพื่อคุณธรรม แม่บ้านก็นั่งรถไปด้วย พอไปถึงนครสวรรค์เวลาประมาณตีสาม ก็มีคนที่นั่นอยู่สามสี่คน พวกเขาก็เอามัยยิตลงจากรถไปไว้บนแคร่ไม้ไผ่ ในห้องเล็กๆ แถมล็อกกุญแจโดยที่ไม่ใด้ทำความสะอาดศพ อะไรทั้งสิ้น คืออยูสภาพเดิมๆเลยครับ แล้วคนที่นั่นบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยฝัง ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับส่วนแม่บ้านก็ตีรถกลับกรุงเทพโดยที่ไม่รู้ว่าจะเปนงัยต่อไป และมารู้ทีหลังว่าฝังเลย แค่นั้นครับ  จึงมีคำถามเรียนถามครับ
- กรณีที่ผู้ตายสั่ง(วศียะห์)เราไม่ทำตามไดหรือไม่ครับ? เพราะว่าทางญาติผู้ตายไม่ใช่มุสลิมเรา
- หากแม่บ้านจัดการให้มัสยิดที่ตนเป็นสัปบรุษอยุ่จัดการศพให้ ถือเป็นการไม่ทำตามสิ่งที่ผู้ตายสั่งเสียหรือไม่ครับ?
- รึว่าเป็นอาซาบดุนยาครับเพราะขณะผู้ตายมีชิวิตอยุ่ ของห้ามเขาทำครบเลยครับ?เรื่องศาสนาห่างไกลครับ เรียกได้ว่าเป็นมสลิมแต่เพียงชื่อ ครับ..
- จะตกหนักกับใครครับ(สำหรับคนเป็นที่ต้องจัดการศพ)?
- อาจารย์มีข้อเสนอแนะอย่างไรกับประเด็นนี้ครับ?    
-
                                                                        รบกวนอาจารย์แค่นี้ก่อนครับ  วัสสลาม....

อาลี เสือสมิง

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2179
وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته
      الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد

1)  ในกรณีที่ถามมา ผู้ตายได้วะศียะฮฺ (สั่งเสีย) ให้เคลื่อนย้ายศพของผู้ตายไปยังอีกสถานที่หนึ่ง (คือ จ.นครสวรรค์) การวะศียะฮฺของผู้ตายในกรณีนี้ไม่ต้องกระทำตามแต่อย่างใด


ทั้งนี้ถือตามทัศนะที่ถูกต้องที่สุด (อะเศาะหฺ) ซึ่งอัล-กอฎียฺหุสัยนฺและอัล-มุตะวัลลียฺวินิจฉัยเอาไว้เพราะตามหลักศาสนบัญญัติให้รีบฝังศพและในการเคลื่อนย้ายศพเป็นการทำให้การฝังศพล่าช้าออกไป กอปรกับอัล-บะเฆาะวียฺ , อัล-บันดะนัยญียฺจากชาวอีรัก ถือว่าเป็นการมักรูฮในการเคลื่อนย้ายศพ (จากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่ง)


และอัล-กอฎียฺ หุสัยนฺ , อัด-ดาริมียฺ และอัล-มุตวัลลียฺ ถือว่าการเคลื่อนย้ายศพ (ไปยังต่างเมือง) เป็นที่ต้องห้าม (หะรอม) มีอยู่เพียงกรณีเดียวเท่านั้นที่ได้รับการยกเว้นและถือเป็นทัศนะที่ได้รับการคัดเลือก คือศพนั้นอยู่ใกล้เขตของนครมักกะฮฺ , มะดีนะฮฺ และบัยตุลมักดิส ก็ให้เคลื่อนย้ายศพไปยังทั้ง 3 เมืองนั้นได้ เพราะเป็นแผ่นดินที่มีความประเสริฐ (กิตาบ อัล-มัจญมูอฺ ชัรหุลมุฮัซซับ ; อัน-นะวาวียฺ 5/272)


 ดังนั้นเมื่อผู้ตายวะศียะฮฺให้เคลื่อนย้ายศพของตนไปยัง จ.นครสวรรค์จึงเป็นสิ่งที่โมฆะและไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามคำวะศียะฮฺดังกล่าวเนื่องจากเป็นการวะศียะฮฺที่ไม่ชอบตามหลักศาสนบัญญัติ (อัล-ฟิกฮุลมันฮะญียฺ เล่มที่ 5 หน้า 49)



2)   หากแม่บ้านมุสลิมะฮฺผู้นั้นให้มัสญิดที่ตนเป็นสัปปุรุษอยู่ดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการศพตามหลักการของศาสนาย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด และย่อมได้รับภาคผลในการช่วยเหลือเรื่องดังกล่าว และคำวะศียะฮฺของผู้ตายเป็นโมฆะซึ่งไม่อนุญาตให้กระทำตามคำวะศียะฮฺนั้นอยู่แล้ว จึงไม่ต้องพิจารณาในเรื่องคำวะศียะฮฺของผู้ตายแต่อย่างใดในเรื่องนี้


3)   ก็เป็นไปได้ครับ และนี่เป็นผลมาจากความไม่รู้หลักการที่ถูกต้องทางศาสนาของคนที่เกี่ยวข้องจึงเกิดความบกพร่องในเรื่องนี้


4)   หากศพของผู้ตายที่มีการเคลื่อนย้ายไปยังนครสวรรค์ถูกฝังเลยโดยไม่มีการอาบน้ำศพและห่อศพตลอดจนการละหมาดญะนาซะฮฺให้แก่ผู้ตาย ทุกคนที่เลินเล่อและละเลยฟัรฎูกิฟายะฮฺในกรณีนี้และมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคนที่อยู่ที่นครสวรรค์ (ตรงที่เกิดเหตุ)ล้วนแต่มีบาปจากการบกพร่องในเรื่องดังกล่าวเพราะถือเป็นที่ต้องห้ามในการฝังศพก่อนการละหมาดให้แก่ศพ ดังนั้นหากเรื่องที่กล่าวมาเป็นจริง คือ ศพของผู้ตายถูกฝังไปโดยไม่มีการอาบน้ำศพ ห่อศพ และละหมาดให้แก่ศพทั้งๆ ที่สามารถดำเนินการได้ ผู้ที่เกี่ยวข้องตรงนั้นย่อมมีบาปโดยไม่มีข้อขัดแย้ง (ดู กิตาบ อัล-มัจญมูอฺ อ้างแล้ว 5/266-267)


5)   ขอให้จำเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์และขอให้อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงอภัยโทษต่อความผิดที่เกิดขึ้นแก่พี่น้องของเราทุกคน

والله اعلم بالصواب