الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد
จำเป็นต้องระมัดระวังในการกล่าวตักบีเราะตุลอิหฺร็อมจากการหยุด (วักฟะฮฺ) ระหว่าง 2 คำของการกล่าวตักบีร (คือจะต้องไม่กล่าวว่า อัลลอฮฺ-อักบัรฺ เช่น กล่าวว่า อัลลอฮฺ แล้วก็หยุดต่อจากนั้นก็กล่าวว่า อักบัร เพราะการกล่าวตักบีรต้องมีคำ 2 คำที่ต่อกันเหมือนเป็นคำๆ เดียวกัน เมื่อไปหยุดอย่างที่ว่ามาก็กลายเป็นว่า (อัลลอฮฺ) คำหนึ่งซึ่งมิใช่การกล่าวตักบีร และกลายเป็นว่า (อักบัร) อีกคำหนึ่งซึ่งไม่ใช่การกล่าวตักบีร และจำต้องระมัดระวังจากการกล่าวเพิ่มเติมที่ทำให้เสียความหมาย
(เช่น กล่าวว่า اللهُ الَّذِىْ لاإلهَ إلا هو الْمَلِكُ الْقُدُّوْسُ أكبرُ ถือว่าการกล่าวตักบีรนั้นใช้ไม่ได้ โดยไม่มีข้อขัดแย้งเพราะออกจากชื่อของการตักบีร) ฉนั้น ถ้าหากไปหยุด (อย่างที่ยกตัวอย่างมา) หรือกล่าวว่า อ๊าลลอฮุอักบัร หรือ อ๊าลลอฮุอ๊ากบัร ด้วยการใส่มัดที่ฮัมซะฮฺของ ألله หรือสองฮัมซะฮฺ หรือกล่าวว่า อัลลอฮุ อักบาร หรือเติมวาวที่มีสุกูนหรือมีสระระหว่างคำ 2 คำ (เช่น กล่าวว่า อัลลอฮู หรือ อัลลอฮุว่า) การตักบีรเราะตุลอิหฺร็อมก็ถือว่าใช้ไม่ได้
ชัยคฺ อบูมุฮัมมัด อัลญุวัยนียฺกล่าวไว้ในอัต-ตับศิเราะฮฺว่า : และไม่อนุญาตให้ใส่มัดฺด์ (อ่านหน่วงเสียง) นอกเสียจากบนตัวอักษรอะลีฟ ที่อยู่ระหว่างอักษรลาม และอักษรฮาอฺ (คือคำว่า ลอฮฺ) และการอ่านมัดฺด์ (หน่วงเสียง) นั้นจะต้องไม่ออกจากขอบเขตพอดีไปยังการลากยาวจนเลยเถิด
และหากกล่าวว่า : “อุศ็อลลีอัซซุฮฺเราะ มะอฺมูมัน (อิมามัน) อัลลอฮุอักบัร” ก็ให้อ่านฮัมซะฮฺเป็นฮัมซะฮฺก็อฏอฺ (คืออ่านฮัมซะฮฺแบบชัดขาด) จากคำว่า อัลลอฮุอักบัร และให้กล่าวแบบเร็ว แต่ถ้าหากกล่าวเชื่อม (วะศ็อล) คือกล่าวว่า มะมูมะนิลลาฮุอักบัร / อิมามะนิลลาฮุอักบัร) ถือว่าค้านกับสิ่งที่ดีกว่า (คิลาฟุลเอาลา) แต่ว่าการละหมาดนั้นใช้ได้ (กิตาบ อัล-มัจญมูอฺ ชัรหุลมุฮัซซับ ; อัน-นะวาวียฺ เล่มที่ 3 หน้า 253)
والله اعلم با لصواب