ผู้ชายทำนมละหมาดวันศุกร์ได้ไม่คับ  (อ่าน 4909 ครั้ง)

ผู้สงสัย

  • บุคคลทั่วไป
ผู้ชายทำนมละหมาดวันศุกร์ได้ไม่คับ
« เมื่อ: ตุลาคม 22, 2010, 01:25:32 pm »
อัสลามูอาลัยกุม
วันนี้ผมไปละหมาดวันศุกร์เห็นผู้ชายคนหนึ่ง ทำนมมาหรือที่เราเรียกว่ากระเทยมาร่วมละหมาดวันศุกร์
ไม่ทราบว่าจะผิดหลักศาสนาหรือเปล่า ถ้าผิด ผู้ที่พบเห็นสามารถกล่าวตักเตือนได้หรือเปล่า

Al_Wardah

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 17
Re:ผู้ชายทำนมละหมาดวันศุกร์ได้ไม่คับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2010, 11:10:09 pm »
รับสลาม
อย่างนี้นะครับกระเทย ในภาษาอาหรับ หมายถึง คนที่มี 2 เพศในคนเดียว คนที่คุณเจอเค้าตอนละหมาดวันศุกร์เค้าทำหน้าอกมาใช่หรือไมครับ แล้วเค้าไปเปลี่ยนหรือยังครับ
ถ้ายังไม่เปลี่ยนเพศใช่แสดงว่าเค้าเปนผู้ชายเพราะว่า กฎเกณฑ์ผู้วายิบละหมาดวันศุกร์ วายิบ บนผู้ชาย
ดั้งนั้นถ้าเค้ายังไม่เปลี่ยนเพศแสดงว่าเค้าวาวายิบต้องละหมาดวันศุกร์  แต่ถ้าเปลี่ยนแล้วไม่ต้องไปวันศุกร์
เพราะว่าเค้าเปลี่ยนเปนผู้หญิงแล้ว ไม่ต้องไปวันศุกร์ เพราะละหมาดวันศุกร์ไม่วายิบบนผู้หญิง
และการละหมาดฟัรดูปกติให้ทำเหมือนผู้หญิงเพราะว่าเค้าเปลี่ยนเพศแล้วครับ
วัสลาม

อับดุลการีม

  • บุคคลทั่วไป
Re:ผู้ชายทำนมละหมาดวันศุกร์ได้ไม่คับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2010, 03:03:21 am »
สงสัยครับอาจารย์ครับ...ในเมื่อเดิมเขาเป็นผู้ชายแล้วตอนนี้แปลงเพศซึ่งเปลียนแค่สรีระเท่านั้นท้องก็ไม่ได้แล้วจะเป็นผู้หญิงได้อย่างไร ถ้างั้นผู้หญิงแปลงเป็ผู้ชาย ถูกก็ไม่เสิยนำ้ละหมาดซิครับ...งงจริง

deeneeyah

  • บุคคลทั่วไป
Re:ผู้ชายทำนมละหมาดวันศุกร์ได้ไม่คับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2010, 07:57:37 am »
salam

คำว่า \"กระเทย\" ตามหลักศาสนานั้น คือคนที่มี 2 เพศ ตั้งแต่กำเนิด ไม่ใช่เหรอ

ส่วนการเปลี่ยนโดยใช้ศัลยกรรมนี่ ไม่น่าจะเปลี่ยนฮู่กมได้นะครับ
ไม่งั้นก็ต้องได้รับมรดกน้อยกว่าเดิมด้วย  :cheer:

ยังไงรอ อ.อาลี มาตอบนะครับ

อาลี เสือสมิง

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2179
ตอบ : ผู้ชายทำนมละหมาดวันศุกร์ได้ไม่คับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2010, 07:30:17 pm »
وعليكم السلام ورحمة الله و بركاته
الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد...؛

คำว่า \"กระเทย\"  มีสองนัยในภาษาไทย  หนึ่ง หมายถึง คนที่มีอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง  สอง หมายถึงคนที่มีจิตใจและกริยาอาการตรงข้ามกับเพศของตน  ตามนัยที่หนึ่งเรียกกระเทยที่มีอวัยวะเพศทั้งชายและหญิงในภาษาอาหรับว่า อัล-คุนฺษา (اَلْخُنْثَى) ในศัพท์ทางวิชาฟิกฮฺเรียกกะเทยที่ไม่แน่ชัดว่าเป็นหญิงหรือชายว่า  اَلْخُنْثَى الْمُشَكَّلُ   (อัล-คุนฺษา  อัล-มุชักฺกัลฺ)  


ส่วนยผู้ชายที่มีจิตใจและกริยาอาการเหมือนผู้หญิงตามนัยที่สองนั้นเรียกในภาษาอาหรับว่า  ว่า  اَلْخَنِثُ  (อัล-เคาะนิษฺ)  หรือ  اَلْمُخَنَّثُ  (อัล-มุคอนนัษฺ)  กระเทยที่มีสองเพศนั้นถือเป็นเรื่องธรรมชาติที่อัลลอฮฺสร้างเขามาเช่นนั้น  การเป็นกระเทยจริงๆ จึงไม่ใช่บุคคลที่มีความผิดทางหลักของศาสนา  และนักวิชาการก็อนุญาตให้กะเทยจริงๆ ผ่าตัดทางศัลยกรรมและรับประทานหรือฉีดฮอร์โมนเพศที่ตนประสงค์เลือกจะเป็นได้โดยไม่ถือว่าขัดต่อหลักการของศาสนาและเลือกเป็นเพศใดที่ตนต้องการและมีความโน้มเอียงไปทางนั้นก็ให้ถือเอาเพศนั้นเป็นกณฑ์


ส่วนกระเทยตามนัยที่สองนั้นมีเพศชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นชายหรือเป็นหญิงและมีอวัยวะเพศเดียว  การมีเพศชายแต่กำเนิดโดยชัดเจนก็ถือว่าเป็นเพศชายตามหลักการของศาสนาจนกระทั่งตาย  และการไปผ่าตัดทำศัลยกรรมเต้านม ทำอวัยวะเพศหญิง ขัดผิว กินฮอร์โมนเพศหญิง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงการสร้างของอัลลอฮฺทรงกำหนดมาซึ่งเป็นสิ่งต้องห้าม (หะรอม)  นอกเหนือจากการเลียนแบบผู้หญิง  ทำอาการกริยาท่าทางเป็นผู้หญิงซึ่งเป็นสิ่งต้องห้าม (หะรอม) เช่นเดียวกัน  กะเทยในลักษณะเช่นนี้ซึ่งกำลังมีมากและแพร่ระบาดอยู่ในสังคมของบ้านเราถือเป็นผู้ชายตามหลักเดิมที่ตนกำเนิดมา จะเปลี่ยนชื่อ จะแปลงเพศให้เป็นผู้หญิงอย่างไรก็ไม่ใช่ผู้หญิงตามข้อเท็จจริง  กล่าวคือยังคงเป็นผู้ชายตามหลักของศาสนา  และสังคมก็ไม่ถือเป็นเพศหญิงแต่เป็นเพศที่สาม


ดังนั้นเมื่อกระเทยประเภทนี้มีเงื่อนไขที่วาญิบต้องละหมาดวันศุกร์ครบถ้วนก็ต้องมาละหมาดวนศุกร์เหมือนผู้ชายโดยทั่วไป  และการละหมาดวันศุกร์นั้นก็ใช้ได้  แต่มีโทษในเรื่องการทำนมปลอมซึ่งเป็นการเลียนแบบผู้หญิงและเปลี่ยนแปลงการสร้างของอัลลอฮฺ  ฉะนั้นเมื่อเขายังคงมีความสำนึกในฐานะเป็นมุสลิมและเป็นผู้ชายที่จำเป็นต้องมาละหมาดวันศุกร์ เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นความดีของเขา  แต่การปฏิบัติตัวของเขาซึ่งไม่เกี่ยวกับวันศุกร์หรือเรื่องการประกอบศาสนกิจทั่วไป  หากแต่เป็นเรื่องของการเลียนแบบผู้หญิง  การเปลี่ยนแปลงร่างกายให้ผิดเพศที่แท้จริงของตน  


เรื่องนี้ผู้ที่มีความรู้จำเป็นจะต้องตักเตือนซึ่งอาจจะพูดคุยโดยตรงกับเขาในที่ๆ เหมาะสม  มิใช่ประจานต่อหน้าผู้คนเพราะอาจจะทำให้เขาดื้อแพ่งและไปแบบกู่ไม่กลับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้ชาวมุสลิมในสังคมนิ่งเงียบและไม่สนใจที่จะป้องปรามตักเตือนการทำพฤติกรรมเช่นนี้  หรือยินดีและพอใจกับพฤติกรรมเช่นนี้ซึ่งเป็นบาปใหญ่  แต่มุสลิมต้องคิดทบทวนการอบรมเลี้ยงดูบุตรของตนว่าสอดคล้องกับหลักการของศาสนาหรือไม่  คนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ถึงขึ้นทำนมเทียม แสดงว่าพ่อแม่และครอบครัวเอาไม่อยู่แล้ว และก็มีเป็นจำนวนมิใช่น้อยในสังคมมุสลิมที่มีบุคคลประเภทนี้ปรากฏให้เห็นอยู่  


ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องร่วมด้วยช่วยกันไม่ให้ปรากฏการณ์เช่นนี้แพร่หลายไปมากกว่านี้  คนที่เป็นไปแล้ว ฉุดได้แค่ไหนก็ต้องฉุดเอาไว้  แต่ถ้าฉุดแล้วยังเอาไม่อยู่ก็คงต้องแสดงความไม่พอใจ ไม่ยินดีด้วยต่อพฤติกรรมเช่นนี้  คนบางคนอาจจะมีนิสัยเรียบร้อย นุ่มนวล อ่อนหวาน ทั้งๆ ที่เป็นผู้ชาย  ทีแรกเขาอาจจะไม่มีความคิดเรื่องการเป็นกะเทยนี้อยู่ในสมองเลยก็ได้  แต่เมื่อคนรอบข้างไปยัดเยียดเรียกเขาว่า กะเทย ตุ๊ด แต๋ว อะไรเทือกนั้น โดนเรียกมากๆ ในที่สุดก็เป็นประชดมันไปเสียเลย  อย่างนี้ก็มีเยอะเหมือนกัน  จึงกล่าวได้ว่าคนเหล่านี้มิได้มีสันดานชั่วมาแต่เดิม  เมื่อเขาทำผิดบัญญัติศาสนาในเรื่องนี้ก็เป็นหน้าที่ของทุกคนต้องช่วยกันตักเตือนและบอกกล่าว  แต่มิใช่ไปซ้ำเติมและพิพากษาจุดจบของพวกเขา


والله أعلم بالصواب