17.อัต-ตีญานียฺตอกย้ำข้อกล่าวหาของตนอีกครั้งว่า ท่านอุมัรฺ (ร.ฎ.) ป่วนเหล่าเศาะหาบะฮฺด้วยกัน

อัต-ตีญานียฺเขียนในตอนท้ายเรื่องนี้ว่า :

“มีสิ่งผลักดันให้ข้าพเจ้าคาดคะเนว่า อุมัรฺ อิบนุ อัล-คอฏฏอบคือผู้ที่ปลุกระดมผู้ที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์คนอื่นๆ และผลักดันพวกเขาไปสู่ความลังเลและการแชเชือนต่อคำสั่งของท่าน รสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) นอกเหนือจากการยอมรับของอุมัรฺเองว่าเขาได้กระทำการหลายอย่างเพื่อสิ่งดังกล่าว ซึ่งอุมัรฺเองก็ไม่อยากที่จะกล่าวถึงมัน คือสิ่งที่อุมัรฺกล่าวถึงอยู่บ่อยครั้งในแหล่งอื่นๆ ว่า : ฉันยังคงถือศีลอด บริจาคทาน ละหมาด และปล่อยทาส เนื่องจากวิตกถึงคำพูดของฉันซึ่งฉันได้พูดออกไป …จนถึงสุดท้ายของสิ่งที่ถูกรายงานมาจากอุมัรฺในกรณีนี้ อันเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกได้ว่า ตัวอุมัรฺเองก็รู้ดีในภายหลังถึงท่าทีซึ่งเขาได้แสดงจุดยืนในวันนั้น มันเป็นเรื่องน่าฉงนและแปลกแต่มันเป็นเรื่องจริง…” (ษุมมะฮฺตะดัยตุ้ หน้า 95)

 

วิภาษ

1) อัต-ตีญานียฺมโนภาพและคิดคาดคะเนเอาเองว่าท่านอุมัรฺ (ร.ฎ.) คือผู้ที่ปลุกระดมเหล่าเศาะหาบะฮฺให้ลังเลและกระด้างกระเดื่องต่อท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) เป็นเพียงการคาดคะเนที่ไร้หลักฐานมาสนับสนุน เพราะไม่มีรายงานใดเลยที่ระบุว่าท่านอุมัรฺ (ร.ฎ.) กระทำสิ่งที่อัต-ตีญานียฺมโนภาพ จะมีก็แต่ความมุสาที่อัต-ตีญานียฺปั้นน้ำเป็นตัวเท่านั้น และหากว่าจะมีหลักฐานอยู่จริง เหตุไฉนอัต-ตีญานียฺจึงต้องคาดเดาโดยไม่อ้างหลักฐานมาสนับสนุนมโนภาพของตนด้วยเล่า!

 

2) อัต-ตีญานียฺเขียนขัดแย้งกันเองอีกครั้งว่า ท่านอุมัรฺ (ร.ฎ.) ยอมรับว่าท่านได้กระทำการหลายอย่างเพื่อสิ่งดังกล่าวซึ่งท่านอุมัรฺ (ร.ฎ.) เองไม่อยากจะเอ่ยถึง แล้วอัต-ตีญานียฺก็เขียนว่า สิ่งที่ท่านอุมัรฺ (ร.ฎ.) ไม่อยากจะเอ่ยถึงก็คือสิ่งที่ท่านอุมัรฺ (ร.ฎ.) กล่าวถึงอยู่หลายครั้งในแหล่งอื่นๆ ว่า ฉันยังคงถือศีลอด ….ฯลฯ เหตุที่อัต-ตีญานียฺจงใจเขียนเช่นนั้นก็เพื่อทำให้ผู้อ่านหลงประเด็นไปว่ายังมีการกระทำอย่างอื่นที่ท่านอุมัรฺ (ร.ฎ.) ต้องการจะปกปิดเอาไว้ นั่นคือการคาดเดาที่อัต-ตีญานียฺตั้งสมมุติฐานและมโนภาพนั่นเอง ทั้งๆ ที่มีรายงานของอิบนุ อิสหาก และอัล-วากิดียฺจากหะดีษของอิบนุ อับบาส (ร.ฎ.) ระบุถึงคำพูดของท่านอุมัรฺ (ร.ฎ.) เองว่าบรรดาการกระทำหลายอย่างที่ท่านอุมัรฺ (ร.ฎ.) ได้ปฏิบัติหลังเหตุการณ์อัล-หุดัยบียะฮฺก็คือ การถือศีลอด การละหมาด การบริจาคทานและการปล่อยทาส (ดู ฟัตหุลบารียฺ เล่มที่ 5 หน้า 408)

 

และรายงานดังกล่าวซึ่งอัต-ตีญานียฺเขียนว่า “ในแหล่งอื่นๆ” ก็คือรายงานที่อธิบายข้อความของท่านอุมัรฺ (ร.ฎ.) ในเศาะหิหฺอัล-บุคอรียฺ และการกระทำดังกล่าวที่ท่านอุมัรฺ (ร.ฎ.) ได้ปฏิบัติเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังเหตุการณ์อัล-หุดัยบียะฮฺผ่านพ้นไปแล้ว แต่อัต-ตีญานียฺกลับนำมาเขียนให้เกิดความคลุมเครือว่าเป็นสิ่งที่ท่านอุมัรฺ (ร.ฎ.) ได้พยายามกระทำในช่วงที่กำลังเกิดเหตุการณ์อัล-หุดัยบียะฮฺ

 

นี่คือเรื่องราวอันน่าฉงนและแปลกยิ่งนักสำหรับการเขียนของบุคคลที่อ้างว่าตนไม่ยึดติดกับอารมณ์ความรู้สึกส่วนตัวและจะรักษาความเป็นกลางในการวิเคราะห์อย่างที่อัต-ตีญานียฺกล่าวอ้าง แต่สิ่งที่เขาเขียนได้เผยให้เห็นถึงธาตุแท้ของตนว่าซื่อสัตย์ในจรรยาบรรณที่แอบอ้างนั้นมากน้อยเพียงใด เพราะขนาดคำพูดของท่านอุมัรฺ (ร.ฎ.) ที่มีคำอธิบายอย่างชัดเจนอัต-ตีญานียฺยังสามารถเปลี่ยนแปลงให้เป็นสิ่งที่คลุมเครือได้ สำหาอะไรกับกรณีที่หากว่าอัต-ตีญานียฺพบเรื่องราวที่สามารถเล่นงานท่านอุมัรฺ (ร.ฎ.) ได้ชัดเจนกว่าเรื่องนี้ อัต-ตีญานียฺก็คงจะไม่พิรี้พิไรที่จะแต่งเติมแบบใส่สีตีไข่ในข้อเขียนของตนเป็นแน่แท้ แต่เมื่อไม่พบ อัต-ตีญานียฺจึงทำได้เพียงแค่สร้างความคลุมเครือด้วยการคาดเดาและมโนภาพเอาเองเท่านั้น