อิสลามคือสินสมรส

        ท่านอะนัส อิบนุ มาลิก (ร.ฎ.) ได้เล่าว่า : อบู ตอลฮะห์ ได้มาสู่ขอท่านหญิงอุมมุ ซุลัยม์ (ร.ฎ.) –ซึ่งอบูตอลฮะห์ในเวลานั้นยังมิได้เข้ารับอิสลาม- ท่านหญิงจึงกล่าวว่า : แท้จริง ไม่เป็นการบังควร ที่ฉันจะทำการสมรสกับชายผู้ตั้งภาคี! โอ้ อะบาตอลฮะห์! ท่านมิทราบดอกหรือว่า บรรดาเทพเจ้าที่ท่านสักการะนั้น ทาสของตระกูลนั้น ๆ เป็นผู้แกะสลักปั้นมันขึ้นมา  และแท้จริงถ้าหากว่าพวกท่านจุดไฟสุมเจว็ดและรูปปั้นเหล่านั้นแล้วไซร้ แน่นอนมันย่อมมอดไหม้!

        ท่านอะนัส (ร.ฎ.) เล่าต่อว่า : เมื่ออบูตอลฮะห์ ถูกปฏิเสธดังนั้นเขาจึงจากไปโดยในใจของเขามีสิ่งที่ต้องครุ่นคิดจากคำพูดของท่านหญิงอุมมุ ซุลัยม์ (ร.ฎ.) ต่อมาภายหลังเขาก็ได้มาหานางอีกคราและกล่าวว่า : สิ่งที่เธอได้เสนอต่อฉันนั้น ฉันน้อมรับแต่โดยดี (ในที่สุด อบูตอลฮะห์ก็เข้ารับอิสลาม) ท่านอะนัส (ร.ฎ.) กล่าวว่า : นางไม่ได้มีสินสมรสอันใดเลยนอกจากการเข้ารับอิสลาม (ของอบีตอลฮะห์)

        (คัดจาก ตะบะกอต อิบนิ ซะอ์ดฺ (8/426/427) และท่านอิบนุ ฮะญัร ได้ระบุไว้ใน “อัลอิซอบะห์” (8/243) และสายรายงานนี้ถูกต้อง)