แผนยึดครองประเทศของชนมุสลิม ฉบับพระสงฆ์ตามที่ปรากฏในไฟล์เสียง

ไขความและเห็นต่าง

ตกลงว่า ถ้าลูกหลานมุสลิมเรียนจบมหาวิทยาลัยก็สามารถเข้าทำงานได้ทุกกระทรวง ทบวง กรม และทุกองค์กรของรัฐ! ว่างั้นเถอะ แล้วใครเป็นคนเอาบุคลากรเหล่านี้ไปใส่ไว้ในแต่ละจุด! เรื่องจะเป็นจริงดังว่า มันต้องมีเงื่อนไขอยู่อย่างน้อย 2 ข้อ  (หนึ่ง) งานกับสาขาที่เรียนต้องตรงกันหรือไม่ ก็พอที่จะปรับเข้ากับงานที่จะทำนั้นได้  (สอง) เจ้าของหน่วยงานนั้นรับบุคลากรที่ว่าเข้าทำงานในสังกัดของตนหรือไม่ก็ต้องมีเส้นมีสาย มีคนในหรือมีเจ้าใหญ่นายโตฝากเข้าทำงาน หากไม่มี 2 ข้อนี้ก็คงจะทำตามแผนการที่วางเอาไว้ลำบาก

ในเงื่อนไขที่หนึ่งนั้น ถ้ามุสลิมที่เรียนจบอันเป็นผลมาจากโควตาพิเศษเรียนในสาขาที่ไม่ตรงกับสายงานจะทำอย่างไร? และการที่จะส่งคนเข้าไปแทรกซึมอยู่ในทุกจุดนั้นก็ต้องสัมพันธ์กับจำนวนคนและต้องมีจำนวนคนพอสำหรับทุกหน่วยที่จะเข้าไปยึดกุม เท่านั้นยังไม่พอ ตำแหน่งที่รับนั้นก็ต้องเป็นตำแหน่งที่สำคัญในองค์กรนั้นๆ การเป็นเพียงแค่ภารโรง คนกวาดขยะ แม่บ้านสำนักงาน หรือพนักงานเดินเอกสารหรือคนสวนจะมีศักยภาพพอที่จะยึดกุมหน่วยงานที่มีอยู่มากมายได้อย่างไร?

ถามว่า น่วยงานที่จำเป็นต้องยึดให้อยู่ในการคอนโทรลสำหรับการบรรลุแผนอุบาทว์นี้ทั่วประเทศมีกี่หน่วยงาน เอาแค่หน่วยงานที่สังกัดเพียง 1 กระทรวงนี้ก็เกินกำลังคนที่เรียนจบมาแล้ว ก็ยังนึกไม่ออกว่าแผนนี้พระท่านคิดได้อย่างไร? หน่วยงานของทหารที่คุมกำลังพลและมีอาวุธอยู่ในมือทั่วประเทศมีเท่าไหร่? พวกนักเรียนเตรียมทหารที่จบจะเข้าประจำการครบทุกหน่วยทั่วประเทศเลยหรือไม่? แล้วหมอกับพยาบาลที่เรียนจบพร้อมมีใบประกอบวิชาชีพมีใบประกอบโรคศิลป์เนียะ ตกลงจบมาก็นั่งในกระทรวงสาธารณสุขและสั่งการได้เลยใช่มั้ย!

ผู้บริหารระดับสูงที่ว่านั้นก็เช่นกัน เอาเฉพาะกระทรงมหาดไทยเพียง 1 กระทรวงถามว่ามีกี่หน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ มีอธิบดี รองอธิบดีกรมนั่นกรมนี่กี่อัตรา! กระผมว่าเอาพวกที่เรียนจบมารวมกับพวกพม่าที่เป็นต่างด้าวบวกพวกแอฟริกาที่เดินๆ กันอยู่รวมกันก็ยังไม่พอใส่เข้าไปในหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยเพียงกระทรวงเดียวเลย แล้วจะซึมไปทุกจุด กุมอำนาจได้ทุกระดับแล้ว คิดดูแล้วมันไม่ออกจะเป็นเรื่องที่เว่อร์เกินเหตุไปหน่อยหรือขอรับพระคุณเจ้า! ล้วสัปปะเหร่อกับมรรคทายกตามวัดวาอารามทั่วประเทศละ มีมุสลิมเข้าไปแทรกซึมอยู่ด้วยหรือเปล่า! ถ้ายังไม่มีจะได้หาคนส่งไปเผื่อจะได้ยึดป่าช้ากับธรณีสงฆ์เอามาทำสนามกอล์ฟกับเขาบ้าง เพราะมีนักการเมืองที่รู้จักกันว่า “ป๋า…” แกกำลังมีเรื่องเช่นนี้อยู่