กล้วย (اَلطَّلْحُ)
กล้วย ชื่อไม้ล้มลุกชนิดในสกุล Musa วงศ์ Musaceae จัดแยกออกได้เป็น 2 จำพวก จำพวกที่แตกหน่อเป็นกอ ผลสุกเนื้อนุ่มกินได้ มีหลายชนิดและหลายพันธุ์ เช่น กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ กล้วยหอม บางชนิด ผลสุกเนื้อแข็ง ต้องเผาหรือต้มก่อน จึงกินได้ เช่น กล้วยกล้าย , กล้วยหักมุก จำพวกที่ไม่แตกหน่อเป็นกอ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด เช่น กล้วยนวล , กล้วยผา
ชาวอาหรับเรียกกล้วยว่า เมาซ์ (مَوْزٌ ) เป็นภาษาฮินดีย์เดิม และยังเรียกอีกว่า อัฏฏอลฮฺ (اَلطَّلْحُ ) ซึ่งเป็นคำอาหรับแท้ และเป็นคำที่ถูกระบุในคัมภีร์อัลกุรอาน โดยถูกระบุไว้ในบท อัลวากิอะฮฺ อายะฮฺที่ 29 ซึ่งกล่าวว่า กล้วยในสวนสวรรค์นั้นมีเครือออกเต็มต้นตั้งแต่โคนต้นถึงยอดเลยทีเดียว บ้างก็ว่า คำว่า อัฏฏอลฮฺ (اَلطَّلْحُ ) หมายถึง พืชที่มีหนามขึ้นในเขตแคว้น อัลฮิญาซฺ ผู้คนนิยมอาศัยร่มเงาของมันหลบแดด แต่พืชชนิดนี้เมื่ออยู่ในสวนสวรรค์จะมีความงดงามและมีผลดกมากๆ
กล้วยหนึ่งต้นจะออกผลเพียงครั้งเดียว เมื่อตัดต้นแม่ที่ออกเครือทิ้งแล้วจะมีหน่อใหม่ขึ้นมาแทนที่ต้นเดิม
ท่านอิบนุ ซีนา ระบุว่า การรับประทานกล้วย จะมีสรรพคุณทำให้ปัสสาวะคล่อง เพิ่มความจำที่ดี
สำหรับคนไทยเรา ดูเหมือนว่า กล้วยจะเป็นพืชสารพัดประโยชน์ รากกล้วยใช้ทำยาได้ ลำต้นใช้ทำฐานกระทง ใบกล้วยที่เรียกว่า ใบตอง ก็ใช้ห่อของ ทำจีบกระทง ห่อขนมสารพัดชนิด ไส้ในของกล้วยก็นิยมเอามาทำแกง ผลกล้วยใช้ทำทั้งของหวานและอาหารนานาชนิด โดยเฉพาะข้าวต้มมัด ปลีหรือดอกกล้วยก็สามารถนำเป็นเครื่องเคียงกับน้ำพริกและใส่แกง ฯลฯ
กล้วยน้ำว้านั้น ถือว่าเป็นอาหารอ่อนๆ ที่เหมาะสำหรับทารกที่เริ่มทานอาหาร เรียกได้ว่า เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี แม้แต่ลิงยังชอบกินกล้วย มีเอกสารระบุว่า กล้วยมีสรรพคุณรักษาโรคได้ดังนี้ 1.โรคเจ็บหน้าอก 2.โรคปอด 3.โรคไต 4.ลดอาการไอ 5.โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ 6.เพิ่มอสุจิ 7.เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ 8.โรคท้องร่วง
ในคัมภีร์อัลกุรอานยังได้ระบุถึงพืชอีกหลายชนิด เช่น กระเทียม , หัวหอม , ถั่ว ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์แก่มนุษยชาติ
หากชาวมุสลิมศึกษาและวิเคราะห์วิจัยสิ่งเหล่านี้จากคัมภีร์อัลกุรอานอย่างจริงจัง
เราในฐานะผู้ศรัทธาต่อคัมภีร์อัลกุรอานก็คงจะค้นพบสิ่งเร้นลับอีกมากมายอย่างไม่รู้จบสิ้น
หวังว่าสิ่งที่ได้ขีดเขียนมาทั้งหมดนี้คงจะเป็นการจุดประกายความใฝ่รู้แก่เยาวชนและชาวมุสลิมทั่วไปไม่มากก็น้อย
والله ولي التوفيق