50 ปรากฏการณ์ที่มาพร้อมกับสายน้ำ

1.คนไทยในที่ราบลุ่มแม่น้ำภาคกลางได้มีโอกาสใช้ชีวิตเยี่ยงบรรพบุรุษอีกครั้งด้วยการดำรงชีวิตอยู่กับสายน้ำ

 

2. อนุชนรุ่นหลังได้รู้ซึ้งถึงคุณค่าแห่งภูมิปัญญาของผู้คนรุ่นก่อนในการสั่งสมประสบการณ์จากสายน้ำ

 

3. เปลี่ยนแปรสภาพการดำรงชีวิตแบบสังคมเมืองที่วุ่นวายสู่วังคมที่เงียบสงบและสันโดษ

 

4. คนที่ชอบเที่ยวนอกบ้าน ไม่ชอบอยู่กับบ้าน ได้มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่กับบ้านอย่างจุใจ

 

5. แม่บ้าน เด็ก และคนชราที่ต้องจับเจ่าอยู่กับบ้านมาโดยตลอดได้มีโอกาสเปลี่ยนบรรยากาศจำเจ ไปใช้ชีวิตร่วมกับผู้คนมากหน้าหลายตาในศูนย์พักพิง

 

6. คนที่ไม่มีญาติ ไม่ค่อยมีเพื่อน ได้มีโอกาสพบปะและเรียนรู้นิสัยกับคนอื่นที่มิใช่ญาติและมิใช่เพื่อนในศูนย์พักพิง ในที่สุดก็รู้จักกับผู้คนมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เมื่อสนิทชิดเชื้อกันก็นับเป็นญาติและถือเป็นเพื่อนรู้ใจ

 

7. คนที่เหนื่อยกับงานบ้าน หุงข้าว ทำกับข้าว ซักผ้า รีดผ้า กวาดบ้าน ถูพื้น สารพัดจิปาถะ ได้พักงานเสียที ข้าวก็ไม่ต้องหุง กับข้าวมีคนทำให้ บ้านก็ไม่ต้องกวาด ไม่ต้องถูพื้น รอให้น้ำลดเสียทีเดียว ค่อยขัดถูเคลียร์กันใหม่แบบบิ๊กคลีน

 

8. หลายคนมีโอกาสได้ทดสอบคุณภาพของกระเบื้องหลังคาบ้าน ดูสิว่าทนทานสมราคาโฆษณาหรือไม

 

9. คนต่อเรือขายรอเก้อมานานแล้ว คราวนี้จะได้ลืมตาอ้าปากเสียที ขายเรือดีแบบเทน้ำเทท่าก็คราวนี้แหล่ะ

 

10. ก่อนหน้านี้จะไปดูจระเข้ ต้องไปฟาร์มจระเข้ แต่ตอนนี้ไม่ต้องไปให้ไกล เพราะจระเข้มาถึงบ้านให้เห็นกันจะจะ แบบตัวเป็นๆโดยไม่ต้องเสียค่าบัตรเข้าชม

 

11. ชีวิตชาวประมงน้ำจืด เป็นอย่างไรแต่ก่อนไม่รู้จัก ตอนนี้มีเวลาเหลือเพื่อการตกปลา ทอดแห และวางตาข่าย มีปลาน้ำจืดมากมายให้ทำประมง

 

12. ที่เขาเล่าว่า ที่ดอนน้ำท่วมไม่ถึง คราวนี้แหละได้เห็นกันเต็มตาว่า ขนาดดอนเมืองยังกลายเป็นทะเลสาบ รันเวย์กลายเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ใครจะคิดว่าน้ำท่วมเครื่องบินได้ แต่เที่ยวนี้ได้เห็นของจริง จะได้มีเรื่องเล่าขานแก่คนรุ่นหลัง

 

13. กรุงเทพฯ เป็นเวนิสตะวันออก มีลำคลองมากมายนับพันแห่ง แต่ชื่อคลองถูกลืมเลือน น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้คนกรุงและคนต่างจังหวัดได้รื้อฟื้นและจดจำชื่อคลองกันใหม่โดยไม่ต้องท่องจำให้เสียเวลา คลองเปรมประชากร คลองรังสิตประยูรศักดิ์ คลองประเวศบุรีรมย์ คลองแสนแสบ คลองมหาสวัสดิ์ ฯลฯ ฟื้นคืนชีพอีกครั้งก็คราวนี้แหละ

 

14. ขณะที่น้ำเข้าท่วมพื้นที่ต่างจังหวัด ชาวพระนครได้ร่วมกันส่งเครื่องอุปโภค ปริโภคไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่เหล่านั้น โดยมีฐานะเป็นผู้ช่วยเหลือ ครั้นเมื่อน้ำหลากเข้าท่วมประนครเข้าบ้างแล้ว ผู้คนในต่างจังหวัดที่ยังไม่ประสบอุทกภัยก็มีโอกาสเป็นผู้ให้การช่วยเหลือชาวพระนคร และชาวพระนครได้มีโอกาสรับถุงยังชีพในฐานะผู้ประสบอุทกภัยกับเข้าบ้าง หากไม่มีน้ำท่วมในเขตพระนครก็คงไม่มีโอกาสเช่นนี้เหมือนกับคนอื่นเขา

 

15. นักเรียนในโรงเรียนพร้อมด้วยครูเป็นจำนวนมากได้มีวันหยุดเพิ่มเติม ทำให้ปิดเทอมเล็กกลายเป็นปิดเทอมใหญ่ไปโดยปริยาย ได้หยุดเรียนหยุดสอนกันเต็มอิ่มเลยทีเดียว

 

16. ปัญหาเด็กแว้นท์และแก็งค์มอเตอร์ไซค์ป่วนเมืองลดลง เพราะถนนสายหลักที่เป็นสนามประลองความคึกคะนองในพระนครกลายเป็นลำคลองไปเรียบร้อย

 

17. คนไทยได้เรียนรู้ศัพท์แสงเกี่ยวกับน้ำมากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น น้ำก่อนใหญ่ เป็นต้น คนไทยเพิ่งจะรู้ว่า น้ำนี่เขาก็เรียกกันว่าก้อน เป็นลักษณะนามที่แปลกหู มีคำว่า มวลน้ำ ทิศทางการไหลของน้ำ น้ำค้างทุ่ง น้ำหลังเขื่อน น้ำทะเลหนุน พนังกันน้ำ ประตูระบายน้ำซึ่งใช้อักษรย่อว่า ปตร. และได้รู้จักชื่อประตูระบายน้ำ ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยมีใครสนใจว่ามีชื่อว่าอะไร ประตูระบายน้ำที่ดันที่คุ้นหูก็เช่น ประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ประตูระบายน้ำคลองหกวา เป็นต้น

 

18. มีนวัตกรรมใหม่ๆเกิดขึ้น เช่น การประยุกต์ใช้เก้าอี้พลาสติกนำมาประดิษฐ์เป็นที่ปลดทุกข์ มีการนำเรือยนต์มาผูกต่อกันและติดเครื่องเพื่อดันน้ำ มีการใช้ยางในรถยนต์ขนาดใหญ่มาทำทุ่นเพื่อใช้เคลื่อนย้ายรถยนต์ และคนไทยได้รู้จักกับ บื๊กแบ๊ก ว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร?

 

19. ได้เห็นปรากฏการณ์สำคัญคือการใช้ทางด่วนและตีนสะพานสาธารณะเป็นที่จอดรถส่วนบุคคล

 

20. เป็นโอกาสทองในการทำเป้ารายได้ของกลุ่มเรือรับจ้างซึ่งก่อนหน้านี้มีรายได้ตกต่ำ คาดว่าหลังน้ำลดจะมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ และกลายเป็นเศรษฐีรายย่อย อาชีพเรือรับจ้างกลายเป็นอาชีพที่น่าสนใจ แม้กระทั่ววินมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่ยังต้องหันมาประกอบอาชีพนี้กันเป็นล่ำเป็นสัน

 

21. สินค้าจำพวกวัสดุก่อสร้าง เช่น ทรายบรรจุกระสอบ ปูนซีเมนต์ อิฐบล็อก และหินคลุกขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำให้เถ้าแก่ร้านวัสดุก่อสร้างเฮงกันถ้วนหน้า

 

22. ผู้ประสบอุทกภัยได้มีโอกาสพบคนดังทางสื่อโทรทัศน์ เช่น สรยุทธ์ และดารานักแสดงมาส่งถุงยังชีพให้กับมือแบบตัวเป็นๆ

 

23.ทหารได้ละทิ้งกรมกองออกมาปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนในพื้นทีประสบอุทกภัย เป็นการลบล้างภาพทหารยิงประชาชนให้ไหลไปกับสายน้ำ เพราะพวกที่กล่าวหาทหารมุดหัวหายไปแบบไร้ร่องรอย

 

24. พวกหัวขโมยสบโอกาสในการลงมือโจรกรรมทรัพย์สินของประชาชนที่ละทิ้งบ้านเรือนเอาไว้ หลังจากที่เฝ้ารอคอยโอกาสนี้มานาน

 

25. คนไทยได้เห็นภาพของเยาวชนคนหนุ่มสาวที่มีจิตอาสาร่วมแรงร่วมใจกันแพ็คถุงยังชีพและออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างแข็งขัน

 

26. คาราบาวและศิลปินนักแต่งเพลงได้มีโอกาสอีกครั้งในการนำเสนอบทเพลงที่เกี่ยวกับอุทกภัยและน้ำใจของคนไทยที่มีให้แก่กัน

 

27. เป็นปีที่คนกรุงในเขตที่น้ำยังไม่ท่วมนอนหลับอย่างสบายหู เพราะเสียงประทัดและพลุไม่ส่งเสียงรบกวนในช่วงเทศกาลลอยกระทง

 

28. เด็กๆ ได้เห็นเครื่องบินแบบเฮลิคอปเตอร์บินผ่านบ้านของตนวันละหลายรอบซึ่งแต่ก่อนจะเห็นได้ก็ต่อเมื่อมีการปฏิวัติรัฐประหารเท่านั้น

 

29. คนกรุงได้รับรู้ถึงคุณูปการของคลองแสนแสบว่าเป็นลำคลองสายหลักที่มีส่วนสำคัญในการผันน้ำ พร่องน้ำ และถ่ายเทน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งลำคลองสายนี้มีชาวมุสลิมเชื้อสายเขมรจามมุสลิม และชาวมลายูได้ขุดเอาไว้เมื่อต้นกรุงรัตนโกสินทร์

 

30. คนไทยได้เรียนรู้ว่า ตัววรนุช (ตะกวด-เห้) มีลักษณะแตกต่างจากจระเข้อย่างไร? และผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่เฝ้าบ้านของตนโดยไม่ยอมอพยพนอกพื้นที่ได้มีโอกาสศึกษาสัตว์ร่วมโลกอย่างใกล้ชิด เช่น งูสายพันธ์ต่างๆ

 

31. ขี้ผึ้งเบอร์ 28 และขี้ผึ้งสีชมพูจะกลบมาเป็นยาสามัญประจำบ้านยอดนิยมอีกครั้ง เพราะจะมีคนเป็นโรคน้ำกัดเท้า และฮ่องกงฟุตนับล้านคน

 

32. จะมีคนเป็นจำนวนมิใช่น้อยที่สามารถเลิกเหล้าและบุหรี่ได้ เพราะไม่สามารถลุยน้ำออกไปซื้อหาสินค้าประเภทดังกล่าวได้ และไม่มีที่สำหรับตั้งวงก๊งเหล้า

 

33. เปอร์เซ็นต์ของชั่วโมงข่าวที่รายงานสถานการณ์น้ำท่วมเพิ่มขึ้น มีผู้คนติดตามรับฟังข่าวกันมากขึ้นจนเบียดเวลาละครน้ำเน่าให้น้อยลง แต่เด็กจะติดเกมส์กันงอมแงมเพราะมีเวลาว่างและหยุดเรียนเป็นเวลานาน

 

34. ประชาชนได้มีโอกาสแย่งกันขึ้นรถทหารและเปลี่ยนบรรยากาศจากการเบียดเสียดกันในรถเมล์และรถมินิบัสมานั่งยองๆและนั่งห้อยเท้าได้ตามอัธยาศัย

 

35. ได้เห็นภาพมวลชนรวมตัวกันออกมาเฝ้าประตูระบายน้ำกันอย่างแข็งขันเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาเปิดประตูระบายน้ำ

 

36. คนไทย (พุทธ) มุ่งหน้าเข้าวัดกันเป็นจำนวนมาก โดยไม่ต้องรณรงค์ให้เข้าวัด และพระสงฆ์ได้อยู่ใกล้ชิดกับฆราวาสอีกครั้ง

 

37. ทั้งคนรวยคนจนได้มีโอกาสเท่าเทียมกันในการรับประทานข้าวกล่องโดยไม่ต้องซื้อหา เพียงแต่เข้าแถวรอรับก็ได้รับประทานกันตามอัธยาศัยแล้ว

 

38. คนไทยเลิกแบ่งสีแต่หันหน้ามาแบ่งฝ่ายเป็นสองพวก พวกหนึ่งให้เปิดประตูระบายน้ำ และรื้อพนังกันน้ำ และแนวกระสอบทราย อีกพวกหนึ่งให้ปิดประตูระบายน้ำและเฝ้าระวังพนังกันน้ำไม่ให้อีกพวกมารื้อทำลาย

 

39. โครงการ “เมาไม่ขับ” ประสบผลสำเร็จเกินขาด และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ต้องเสียเวลาในการตั้งด่านตรวจระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่รถยนต์ เพราะมีรถยนต์เป็นจำนวนนับแสนคันจมอยู่ใต้น้ำ และถนนกลายเป็นคลองไปหมดแล้ว

 

40. จำนวนอุบัติเหตุทางรถยนต์ลดลงเป็นประวัติการณ์ การทำผิดในข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากำหนดแถบไม่ปรากฏ เพราะบนทางด่วนเหลือช่องทางให้รถวิ่งเพียงช่องทางเดียว ส่วนทางหลวงนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะกลายเป็นคลองไปหมดแล้ว

 

41. พวกชอบดูขาอ่อนสาวๆไม่ต้องเข้าอินเตอร์เน็ตเข้าไปดูคลิปอีกต่อไป เพราะมีสาวๆเดินลุยน้ำอวดขาอ่อนให้เห็นกันจะจะ

 

42. กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่สามารถชิงพื้นที่ข่าวในสื่อได้ แม้ว่าจะวางระเบิดมากกว่า 10 จุดก็ตาม ในหลายๆเหตุการณ์เพราะพื้นที่ข่าวมีแต่เรื่องสถานการณ์น้ำท่วม

 

43. คนกรุงไม่ต้องควักสตังค์จ่ายค่าทางด่วนพิเศษและโทล์เวย์ เพราะขึ้นก็ฟรี ลงก็ฟรี แต่ต้องเสี่ยงกับรถติดบนทางด่วนแทน ค่าด่านไม่ต้องเสีย เสียเวลาเพียงอย่างเดียว

 

44. สุเหร่าหลายแห่งที่น้ำท่วมไม่ถึงเพราะมีชั้นสอง มีคนมาร่วมละหมาดญะมาอะฮฺและอิอฺติกาฟกันครบ 5 เวลา เพราะคนที่บ้านน้ำท่วมมานอนกันอยู่จนเต็มสุเหร่าและมีเวลาทำอิบาดะฮฺอย่างจุใจ

 

45. โต๊ะครูนักบรรยายมีโอกาสได้พักยาวอยู่กับบ้านเพราะงานสุเหร่ายกเลิกและเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด

 

46. ประชาชนได้เห็นฝีมือของรัฐบาลในการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นว่ามีมากหรือน้อยเพียงใด โดยที่ฝ่ายค้านไม่ต้องออกแรงใดๆ เลย

 

47. นักศึกษาในมหาวิทยาลัยในหลายแห่งๆได้มีโอกาสทำกิจกรรมปละฝึกงานนอกมหาวิทยาลัย เพราะมหาวิทยาลัยถูกน้ำท่วมน้ำท่วมจนต้องปิดชั่วคราว

 

48. อัตราของการใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาของครัวเรือนลดลง ทำให้มาตรการลงการใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาเกิดเป็นรูปธรรม เพราะมีการตัดไฟและตัดน้ำ โดยไม่ต้องเสียงบทำโฆษณารณรงค์ให้สิ้นเปลือง

 

49. รัฐบาลมีโอกาสกู้หนี้ยืมสินจากสถาบันการเงินในต่างประเทศได้อย่างเต็มที่โดยไม่น้อยหน้ารัฐบาลที่แล้ว

 

50. เกิดวรรณกรรมมิติใหม่ว่าด้วยเรื่อง น้องน้ำ น้องทราย และพี่กรุงเขียนจดหมายตอบโต้กันเพื่อคลายเครียดโดยเฉพาะในโลกไซเบอร์

 

ทั้งหมดที่กล่าวมา 50 ข้อเป็นเรื่องราวที่มากับสายน้ำในปี พ.ศ.2554 เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในดินแดนแห่งสายน้ำซึ่งจะกลายเป็นตำนานที่ถูกเล่าขานให้แก่อนุชนรุ่นหลังต่อไป.