ที่บ้านเรามีแต่บ่อ

บ้านหลังที่เราเกิดและเติบโตจนจำความได้นั้น เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ปลูกอยู่ในบ่อเลี้ยงปลา มีพนักหน้าบ้านที่ต่อเป็นหลังคาหน้าจั่วออกมาเชื่อมกับทางเดินปูนหน้าบ้าน มีเงาะและลำใยปลูกอยู่อย่างละต้น ลำใยต้นหน้าบ้านบ้าแต่ใบไม่เคยออกลูกเลย ตามแนวทางเดินปูนหน้าบ้านจะมีต้นมะม่วงแก้ว มะม่วงการะเกด และอกร่อง มีต้นสาเกใหญ่ลูกดก บริเวณทางเดินปูนอีกฟากหนึ่งเป็นแนวเขื่อนริมบ่อใบใหญ่ มีขนาดใหญ่หลายไร่ทีเดียว ที่แนวเขื่อนริมตลิ่งจะมีต้นทับทิมขนาดใหญ่หลายต้นปลูกเรียงรายสลับกับต้นละมุด

 

จะว่าไปแล้วรอบๆ บริเวณบ้านเรามีบ่อปลาและลำรางที่ยกคันร่องปลูกกล้วยและมะม่วงเต็มไปหมด เท่าที่จำได้มีบ่อใบเล็กที่อยู่ติดถนนซอยสวนหลวง มีคันร่องขวางกับบ่อใหญ่หน้าบ้านที่กว้างสุดสายตา บ่ออีกใบหนึ่งอยู่ติดถนนซอยสวนหลวง มีขนาดกว้างอยู่พอควร แต่ก่อนที่ก้นบ่อใบนี้จะมีหอยกราบตัวเท่าเกือบฝ่ามือเป็นจำนวนมาก พอถึงหน้าแล้ง วิดบ่อใบนี้แล้วจับปลาก้นบ่อจนหมดจะเหลือแต่หอยกราบ จะมีคนมาขอลงบ่อเพื่อเก็บหอยกราบเอาไปขาย เก็บกันทีได้หลายกระสอบ พวกพี่ๆ เคยลองเอาหอยกราบมาเผาไฟให้สุกเผื่อว่าจะกินได้ แต่ก็ไม่ถูกปากเพราะหอยกราบเหนียวเป็นหนังสติ๊ก

 

เมื่อเห็นว่ากินไม่ได้อย่างที่นึกจึงไม่ได้หวงเอาไว้ ใครอยากได้ก็มาเก็บเอาไปจากก้นบ่อ ตอนหลังบ่อหอยกราบใบนี้ถมไปส่วนหนึ่งเพราะขายที่ให้คนจีนที่สนิทกันมาสร้างตึกเพื่อทำโรงงานเย็บผ้า พื้นที่ของบ่อส่วนที่เหลือก็สร้างตึกแถวเป็นอาคารพาณิชย์สามชั้น เพราะมีทำเลอยู่ติดหน้าถนนซอยสวนหลวง บ่ออีก 2 ใบอยู่ถัดมาจากบ่อหอยกราบก็ปลูกให้เช่าเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว คนที่เช่าบ้านอยู่ที่นี่เป็นคนอีสานที่เข้ามาทำมาหากินในกรุงเทพฯ บางหลังอยู่บ้านเช่าที่นี้ตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ มาเดี๋ยวนี้ออกลูกและมีหลานแล้วก็ยังไม่ยอมย้ายไปที่อื่น

 

บ้านกลางน้ำที่เราอยู่ด้านหลังเป็นครัวอยู่ติดกับคันร่องสวนหลังบ้าน มีต้นฝรั่ง ชมพู่ มะนาว ร่องสวนหลังบ้านนี้มะอฺของเราปลูกพืชสวนครัวเอาไว้หลายอย่าง มีตะไคร้ โหระพา กระเพรา ฟักทอง แตงไทย บวบ มะเขือเปาะ พริกขี้หนู ถั่วพลู ถั่วฝักยาว และมะระขี้นก ซึ่งทำร้านจากไม้รวกให้เลื้อยอยู่ในโรงไก่หลังเล็ก เลยคันร่องที่ปลูกผักสวนครัวก็เป็นบ่อใบเล็ก เคยใช้เป็นบ่ออาบน้ำหลังบ้าน มีผักบุ้งแดงกับผักกระเฉดปลูกไว้ทิ่ริมตลิ่ง

 

บ่อใบเล็กหลังบ้านนี้ นิอฺพี่สาวคนโตเคยเห็นงูตัวเล็กที่มีหงอนสีแดงว่ายผลุบโผล่อยุ่ในแพแหนและต้นจอก สงสัยจะเป็นลูกพญานาคกระมัง ภายหลังมีการขุดบ่อซึมลงบริเวณบ่อใบนี้เป็นการขุดลงไปในดินก้นบ่อและค่อยๆ ว่างถังส้วมซ้อนลงไป ขุดและวางถังส้วมได้ถึง 12 ลูก ที่ก้นบ่อซึมเป็นดินทรายมีแต่เปลือกหอยขนาดเล็ก หอยที่คล้ายหอยสังข์ก็มี ทำให้รู้ว่าที่ตรงนี้สมัยโบร่ำโบราณเป็นทะเลมาก่อน

 

ที่คันร่องซึ่งขวางบ่อใบนี้ไว้กับบ่ออีกใบหนึ่งมะอฺของเราปลูกตะไคร้เอาไว้หลายกอ กลางร่องก็ปลูกมะม่วงเรียงรายเอาไว้ จำได้ว่าคันร่องตรงนี้มีมะม่วงที่เรียกว่า “ตลับนาค” ปลูกอยู่ทีเหลือเป็นมะม่วงการะเกดกับอกร่อง พ้นจากคันร่องนี้เป็นบ่อที่มีคันร่องเป็นสวนมะม่วงกับกล้วยล้อมรอบ ตรงกลางเป็นคันร่องกลางบ่อที่มีมะม่วงแรดกับการะเกดปลูกอยู่ เดิมคันร่องกลางน้ำนี้เป็นส่วนหนึ่งของร่องสวนที่เดินถึงกัน

 

แต่ต่อมาเมื่อรื้อโรงไก่หลังใหญ่ออก ก็ขุดร่องสวนเอาดินขึ้นมาถมบ่อใต้โรงไก่เพื่อปลูกบ้านหลังใหม่ บ่อที่ถูกขุดดินขึ้นมาจึงกลายเป็นบ่อใบใหญ่ที่มีคันร่องเดิมเหลืออยู่เป็นเกาะกลางบ่อไป บ่อขุดใบนี้เรามีส่วนในการขุดและขนหน้าดินขึ้นมาถมด้วย เมื่อปลูกบ้านหลังใหม่เสร็จบ่อใบนี้ก็ใช้เลี้ยงแหนเอาไว้ พอแหนแน่นดีก็ลงต้อนโดยใช้ไม้ไผ่ต้อนเข้าตลิ่งก็เอาไม้ไผ่ลอยน้ำกันเอาไว้ ปักหลักด้วยไม้รวกไม่ให้แหนออก แล้วก็ตักแหนใส่เข่งเอาใส่รถเข็นไปทิ้งบ่อใบใหญ่หน้าบ้านให้ปลาได้ตอดกิน งานต้อนและตักแหนนี่เป็นงานน่าเบื่อ แต่ก็ขัดไม่ได้เพราะกลัวไม้เรียวของเยาะฮฺ

 

ด้านทิศใต้ของบ่อที่บ้านของเราปลูกอยู่เป็นสวนฝรั่งและชมพู่สลับกับกล้วยน้ำว้า ครั้งหนึ่งตอนที่มีหนังดาบมังกรหยกฉาย เราเคยเอาไม้ทำเป็นดาบไล่ฟันต้นกล้วยจนเกือบหมดสวน เยาะฮฺมาเจอเข้าก็ถูกชำระคดีด้วยการเฆี่ยนเสียหลายที เป็นผลมาจากบ้าหนังจีนแท้ๆ จึงต้องหลังลาย บริเวณสวนนี้มีฝรั่งขึ้นอยู่หลายต้น ส่วนหนึ่งเป็นพันธุ์ฝรั่งขี้นก ลูกเล็ก ใส้สีแดง เดี๋ยวนี้ไม่มีพันธืเหลืออยู่แล้ว ที่ริมสวนเคยมีต้นละหุ่งขึ้นชุกชุมอีกด้วย

 

สวนฝรั่งข้างบ้านยังมีผักเป็ดและผักปาบขึ้นอยู่ทั่วไป ตอนหลังสวนแห่งนี้ถูกปลูกโรงวัวหลังใหญ่ขึ้นมาในพื้นที่เป็นโรงวัวนมมีมากกว่า 10 ตัว และวัวไทยอีก 5-6 ตัว ซึ่งมี “ศรีนวล” เป็นแม่วัว ลูกวัวที่เกิดจากศรีนวลมีมากกว่า 10 ตัวเช่นกัน ศรีนวลเป็นแม่วัวพันธุ์ไทยที่เราเลี้ยงมาตั้งแต่ยังรุ่นๆ ถึงเวลาเช้าของทุกวัน ก็จะเปิดประตูโรงให้ศรีนวลนำเป็นจ่าฝูงเดินผ่านทางปูนหน้าบ้านอ้อมไปทางโรงวิดน้ำหน้าบ้านหลังใหม่ เดินลอดต้นมะยมใหญ่ข้างโรงก็ผ่านสวนมะม่วงริมบ่อออกไปสู่ทุ่งนาร้างทางทิศเหนือของบ้านเรา ที่นั่นมีหญ้าให้ฝูงวัวของศรีนวลได้แทะเล็มกันอย่างจุใจ กลางนาร้างยังคงมีหลุมแปลงควายเหลืออยู่หลายหลุม น้ำหลุมแปลงควายนั้นใสแจ๋ว เสียอย่างเดียวมีปลิงควายเยอะไปหน่อย

 

เลยไปทางถนนที่เป็นทางออกของบ้านสู่ถนนซอยสวนหลวง เมื่อก่อนเรียกซอยนมแพะบ้าง ซอยนมวัวบ้าง เพราะที่ปากซอยริมถนน ทำร้านมีหลังคาเล็กๆ ไว้รีดนมเสร็จเทใส่กระป๋องได้ 2 ใบก็หิ้วจากโรงวัวเอามาวางไว้ที่ร้านหรือแคร่ปากซอย ถึงเวลาก็จะมี “บังยา” ขับรถมารับน้ำนมบรรจุลงถังใส่นมขนาดใหญ่ รีดนมแล้วชั่งกิโล ใช้ชอล์คจดขึ้นกระดานเอาไว้หน้าโรงอันหนึ่ง และจดไว้ที่แผ่นไม้ปิดกระป๋องนมที่แคร่ปากซอยอีกอันหนึ่ง ครึ่งเดือนก็มาเคลียร์บัญชีกัน ตอนนั้นนมวัวกิโลละ 15 บาท นมแพะนี่แพงหน่อยกิโลละ 20-25 บาท เพราะเป็นของหายาก แต่ที่บ้านเรามีทั้งนมวัวและนมแพะ ดื่มกินกันสดๆ จากเต้ามิได้ขาด