ความรู้กับทรัพย์สิน

 

 مَنْ قَاسَ بِالْعِلْمِ الثَّرَاءَ فَإِنَّهُ        

فِى حُكْمِه أَعْمَى البَصِيْرَةِ كَاذِبُ

اَلعِلْمُ تَخْدِمُهُ بِنَفْسِكَ دَائِمًا       

وَالمالُ يَخْدِمُ عَنْكَ فِيهِ نَائِبُ      

والمالُ يُسْلَبُ أو يَبِيْدُ لِحَادِثٍ       

وَالعِلْمُ لا يُخْشَى عَلَيهِ السَّالِبُ

والعِلْمُ نَقْشٌ فى فُؤَادِكَ رَاسِخٌ        

والمَالُ ظَلَّ عَنْ فَنَائِكَ ذَاهِبُ

 هذا على الإنْفَاقِ يَغْزُرُ فَيْضُهُ        

أبَدًا وذلك حِيْنَ تُنْفِقُ نَاضِبُ            

คนใดอุปมาน

พิพากษาตัดสิน

อันวิชาความรู้

แลนิธิธนสาร

อีกทั้งสินทรัพย์

สรรพเวทนั้นไซร้

ความรู้ทุกสิ่งสรรพ      

ย่อมจากจร

สิ่งนี้เหลือคณา

สิ่งนั้นชะรอย

สมบัติพัสถาน

บอดสิ้นจักษุ

ตัวท่าน

ตัวแทนต่างท่าน      

มักถูกช่วงชิง

ห่อนกริ่งเกรง

สลักมั่น 

ทรัพย์นั้นไซร้

ท่วมท้น

เหือดหาย

เสมอด้วยวิทยา

ห่อนรู้

อุปโยค

อุปโภค

ฤา

จารชน

ในหทัย

คราท่านดับสูญ      

ทุกครา

เมื่อใช้สอย

คนนั้นหนา

มุสาวาทา

เป็นเนืองนิตย์

เป็นโภคิน

วินาศด้วยอาเพศ      

แย่งฉกชิง

จารึกไว้สถาพร

มรณา

ที่ใช้สอยนิรันดร

มลายสูญ