ในคัมภีร์อัลกุรอาน  ได้ระบุถึงสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำชนิดหนึ่งเอาไว้ในท้องเรื่องของศาสดามูซา (อะลัยฮิซซลาม) เจ้าสัตว์ตัวนี้คือ “กบ” นั่นเอง ชาวอาหรับเรียกกบว่า ฎิฟฺดิอฺ (ضِفْدِعٌ)  มีรูปพหูพจน์ว่า ฎ่อฟาดิอฺ  (ضَفَادِعُ)  กบเป็นชื่อสัตว์สี่เท้าสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกในวงศ์ Ramidae ไม่มีหาง  ตีนแบนมีหนังติดเป็นพืด  กระโดดได้ไกล  ว่ายน้ำดำน้ำได้เร็ว  มักวางไข่ในน้ำ 

          เมื่อยังเป็นตัวอ่อนจะมีหางอยู่ในน้ำเรียกว่า ลูกอ๊อด  ภายหลังจึงออกขา หางหดหายไป  แล้วขึ้นอาศัยบนบก  หน้าแล้งอยู่แต่ในรู  ไม่ออกหาอาหารชั่วคราว  เรียกว่า กบจำศีล  มีหลายชนิด เช่น กบนา  (Rana tigerina) , กบทูด ซึ่งเป็นชื่อกบภูเขา  ขนาดใหญ่ชนิด Rana blythii  ในวงศ์ Ranidae ตัวยาวประมาณ  30  ซ.ม.  อาศัยอยู่ในป่าดงดิบชื้นตามลำธารบนภูเขา , กบบัว เป็นชื่อ กบชนิด Rana erythraea ในวงศ์ Ranidae ตัวสีเขียว  ขนาดเล็กกว่า กบนา  มักอาศัยอยู่ตามกอบัว  จึงมีผู้เรียกว่า เขียดบัว  และร้องเสียงจิ๊กๆ บางครั้งจึงเรียกว่า เขียดจิก  ก็มี 

          ส่วนเขียด  ก็เป็นชื่อสัตว์สี่เท้าสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกในวงศ์ Ranidae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับกบ  แต่มักมีขนาดเล็กกว่า  ในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น เขียดอ๋อง (Rana nigrovittata) เขียดหลังขาว (R.limnocharis) วงศ์ Bufonidae รูปร่างคล้ายกบ  ผิวหนังเป็นตุ่มขรุขระ  มีหลายชนิด เช่น  คางคกบ้าน , คางคกป่า เป็นต้น

          ในคัมภีร์อัลกุรอาน  ระบุถึงกบไว้ในบทอัลอะอฺร๊อฟ  อายะฮฺที่ 133 ในรูปคำพหูพจน์ คือ ฎ่อฟาดิอฺ (ضَفَادِعُ )  มีใจความว่า : “ดังนั้นเราจึงได้ส่งอุทกภัย, ตั๊กแตน, เหา, กบ และเลือดมายังพวกเขาเพื่อเป็นสัญญาณอันชัดเจน…” นักวิชาการระบุว่า พระองค์ อัลลอฮฺ (ซ.บ) ได้ส่งบรรดาสัญญาณที่ยืนยันถึงความสัจจริงของศาสดามูซา (อะลัยฮิซซลาม) มีจำนวน 9 ประการ คือ
          1.ไม้เท้า
          2.มือที่มีแสงนวลสีขาว
          3.การแยกออกของทะเล
          4.อุทกภัย
          5.ฝูงตั๊กแตน
          6.เห็บเหา
          7.ฝูงกบ
          8.เลือดหรือตัวเรือด
          9.การสาปให้ทรัพย์สินมีค่ากลายเป็นหิน 

          ฝูงกบได้ขึ้นจากแม่น้ำไนล์และเข้าไปยังบ้านเรือนของพลเมืองอิยิปต์  ซึ่งเป็นพลพรรคของฟิรอูน-ฟาโรห์   เมื่อชาวเมืองคลี่ผ้าออกหรือเปิดภาชนะใส่น้ำ อาหาร และเครื่องดื่มก็จะพบฝูงกบอยู่กันเต็มไปหมด  จนบางคนนั่งอยู่ในบ้านที่มีฝูงกบอยู่เต็มบ้านจนถึงคาง  พอจะพูดกบก็กระโดดเข้าปาก  บางคนนอนหลับอยู่บนที่นอน  ตื่นขึ้นมาก็พบว่ากบทับถมอยู่เต็มตัวจนกระดิกกระเดี้ยวไม่ได้  บางคนอ้าปากจะกินอาหาร  กบก็ชิงกระโดดเข้าปาก  ใครนวดแป้งก็เจอกบกระโดดลงไป  ประกอบอาหารอะไรไว้ก็มีกบอยู่เต็มหม้อ  พอจุดเตาไฟกบก็กระโดดเข้าเตาไฟ  เตาไฟก็ดับลง  อาหารใดมีกบอยู่ก็เน่าเสีย 

          พวกของฟิรอูนได้รับความเดือดร้อนเป็นอันมากเพราะดื้อด้านไม่ยอมศรัทธาต่อศาสดามูซา (อะลัยฮิซซลาม) จึงพากันมาหาท่านศาสดาให้ช่วยวิงวอนจากพระผู้เป็นเจ้า (ซ.บ) ขอให้ฝูงกบหมดไป  แต่เมื่อวิกฤติฝูงกบจบลง  พวกนี้ก็กลับไปดื้อดึงไม่ยอมศรัทธาอีก  เป็นอย่างนี้เสียทุกครั้งไป  พระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ) จึงส่งสัญญาณอื่นๆ มาสั่งสอนให้เข็ดหลาบ  ไม่ว่าจะเป็นเห็บเหา  ฝูงตั๊กแตน  เป็นต้น