นครแบกแดด (بَغْدَادُ )

นครหลวงของอิรักตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไทกริส  (دِجْلَة )  มีประชากรราว  3  ล้าน  2  แสน  5  พันคน,  เป็นราชธานีของราชวงศ์อับบาซียะฮฺ และเป็นหนึ่งจากราชธานีของอิสลามในประวัติศาสตร์,  ค่อลีฟะฮฺอัลมันซู๊ร  แห่งราชวงศ์อับบาซียะฮฺได้สร้างนครแห่งนี้ขึ้นในปี ฮ.ศ.144/คศ. 762  และทรงเรียกขานว่า  นครแห่งสันติภาพ  (مَدْيَنةُ السَّلاَمِ

นครแบกแดดในรัชสมัยค่อลีฟะฮฺแห่งราชวงศ์อับบาซียะฮฺมีความเจริญรุ่งเรืองสุดขีด  โดยเฉพาะรัชสมัยค่อลีฟะฮฺ  อัลมะฮฺดีย์,  อัลฮาดีย์,  และฮารูน  อัรร่อชีดฺ  ต่อมามีการย้ายราชธานีไปยังนครซามัรรออฺ  (سَامَرَّاءُ ) ในระหว่างปี คศ.836-892  หลังจากนั้นนครแบกแดดก็กลับมาเป็นราชธานีของราชวงศ์อับบาซียะฮฺอีกครั้งและเจริญสุดขีดในศตวรรษต่อมา, 

นครแบกแดดเคยเป็นที่พำนักของบรรดานักปราชญ์,  นักกวี  และเป็นศูนย์กลางของวรรณกรรมและศิลปะวิทยาการแขนงต่าง ๆ ,  นครแห่งนี้มีบ้านเรือน  อาคาร  มัสยิดและโรงเรียนมากมาย  ตลอดจนมีโรงพยาบาลที่ถูกเรียกว่า  บีมาริสตาน  และห้องอาบน้ำสาธารณะเป็นอันมาก 

ส่วนหนึ่งจากโรงเรียน  (มัดร่อซะฮฺ)  ที่โด่งดังของนครแบกแดดคือ  อันนิซอมียะฮฺ  และอัลมุสตันซิรียะฮฺ  และหอสมุดดารุ้ลอิลฺมิ  เป็นต้น,  ในปีคศ.1258  ฮูลากู  แม่ทัพมองโกลได้กรีฑาทัพเข้าตีนครแบกแดด  ตามดัวยตัยมูร  แลงก์  ในปีคศ.1392  และ  1401 

ซามัรรออฺ  เมืองหลวงคู่นครแบกแดด   มหาวิทยาลัยอัลมุสตันซีรียะฮฺในแบกแดด

พวกซ่อฟาวียะฮฺและพวกอุษมานียะฮฺได้ผลัดกันเข้ายึดครองแบกแดดในช่วงคริสตศตวรรษที่ 16 และในปีคศ.1638  ซุลตอนมุร็อดที่ 4  แห่งอุษมานียะฮฺ  (ออตโตมาน เติร์ก)  สามารถเข้ายึดครองนครแบกแดดเอาไว้ได้

มัสญิดญามิอฺในนครแบกแดด Suq al-Ghazel (The Yarn Bazaar) Minaret in Baghdad

นครแบกแดดเป็นศูนย์กลางทางการพาณิชย์,  อุตสาหกรรมและการศึกษา,  มีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมวัตถุโบราณในสมัยอิสลาม  มีมหาวิทยาลัยอัลมุสตันซีรียะฮฺ  และบรรดามัสยิดตลอดจนปราสาทและตลาดโบราณเป็นจำนวนมาก,  เป็นชุมทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับตุรกี  และสนามบินนานาชาติ,  มีโรงกลั่นน้ำมันดิบที่ถูกส่งมาจากเมืองกัรกูก  (เคอร์คุก)  มีเขตปกครองแบ่งออกเป็นบัฆด๊าด,  อัล-อะอฺซ่อมียะฮฺ,  อัลกาซิมียะฮฺ,  อัลมะฮฺมูดียะฮฺ  และอัลมะดาอิน