ชื่อไม้เถาชนิด  Vitis  vinifera  Linn  ในวงศ์  Vitidaceae  ผลเป็นพวง  กินได้หรือใช้หมักทำเหล้า  เรียกเหล้าองุ่น  ในภาษาอาหรับเรียก  “องุ่น”  ว่า  อินะบุน  (عِنَبٌ)  มีรูปพหูพจน์ว่า  อะอฺนาบุน  (أعْنَابٌ )  คำว่า  “อินะบุน”  ถูกกล่าวในคัมภีร์อัลกุรอาน 2 แห่งคือ  ในบท  อัลอิสรออฺ  อายะฮฺที่ 91  และบทอะบะซะ  อายะฮฺที่  28  ส่วนคำว่า  “อะอฺนาบุ้”   ถูกกล่าวไว้  9  แห่งด้วยกัน   รวมทั้งหมด  11 แห่ง   ในจำนวนนี้มีอยู่ 6 แห่งที่พระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ)   ทรงระบุเรื่อง  “องุ่น”   ไว้เกี่ยวกับบรรดาความโปรดปรานของพระองค์ที่ทรงประทานให้กับมวลบ่าวของพระองค์ในโลกนี้และในสวนสวรรค์

               ท่านอิบนุ อัลก็อยยิม (ร.ฮ)  กล่าวว่า :  องุ่นเป็นผลไม้ที่ประเสริฐสุด   มีประโยชน์ที่สุด  รับประทานได้ทั้งสด  แห้ง  เขียว  และสุก  เป็นผลไม้ที่ร่วมกับผลไม้ต่างๆ  เป็นอาหารพร้อมกับอาหารหลัก  เป็นแกงพร้อมกับน้ำแกงอื่น  เป็นยาพร้อมกับบรรดายาทั้งหลาย  เป็นเครื่องดื่มร่วมกับเครื่องดื่มต่างๆ มีธรรมชาติเหมือนกับธัญพืช คือ ร้อนและเย็น 

 

               องุ่นที่ดีคือ องุ่นผลใหญ่ น้ำมาก  องุ่นขาวดีกว่าองุ่นดำ  เมื่อมันมีรสหวานเท่ากัน  ผลองุ่นที่ถูกเด็ดและปล่อยไว้ 2 วันหรือ 3 วัน ย่อมดีกว่าผลองุ่นที่ถูกเด็ดในวันแรก  องุ่นมีสรรพคุณดีต่อท้อง  ทำให้ถ่ายง่าย  องุ่นที่ติดอยู่กับต้นจนเปลือกลีบ ดีสำหรับการบริโภคเป็นอาหาร ทำให้ร่างกายแข็งแรง  สารอาหารขององุ่นมีสรรพคุณเหมือนกับมะเดื่อและลูกเกด  แต่การกินองุ่นมากๆ  อาจทำให้ปวดศีรษะได้  ให้กินทับทิมหรือกล้วยแก้ 

               สรรพคุณขององุ่นทำให้อารมณ์ดีและทำให้มีน้ำมีนวล  ถือเป็นราชาผลไม้หนึ่งในสามชนิด คือ องุ่น, อินทผลัม และมะเดื่อ  (ซาดุ้ลม่าอ๊าด ฟี ฮัดยิค็อยริ้ลอิบ๊าด, อิบนุ อัลก็อยยิม เล่ม 3 หน้า 284)  มีรายงานระบุว่า  ท่านศาสดา  (ศ้อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)  ชอบรับประทานองุ่นและแตงโม

               เมล็ดองุ่นมี  OPC  (Oligomericproanthocyanidins)  ซึ่งเป็นสารที่จัดอยู่ในกลุ่ม  ไบโอฟลาโวนอย1ด์  ที่มีมากในพืช  กล่าวกันว่า  โอพีซี มีฤทธิ์เป็นสารล้างพิษที่ดีกว่า  ไวตามินซี และไวตามินอี  ถึง  50  เท่าในการกำจัดสารพิษที่เกิดภายในเนื้อเยื่อทั่วไปและในเนื้อเยื่อไขมัน

               นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการล้างผนังหลอดเลือดให้สะอาด  เพื่อให้เลือดไหลไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้สะดวกและคล่องตัว  โดยเฉพาะที่สมองและปลายมือ  ปลายนิ้ว   แถมยังมีผู้อ้างว่า  สาร โอพีซี  ป้องกันบอดตาไส อันเกิดจากความเสื่อมของประสาทรับแสงที่จอภาพด้านหลังของลูกตาได้ด้วย  นอกจากนี้  สารโอพีซี  จะมีอยู่ในเปลือกขององุ่นแดงเป็นส่วนใหญ่ มีสรรพคุณป้องกันโรคหัวใจอีกด้วย  (นายแพทย์สุวัฒน์ จันทร์จำนง,  อาหารกับสุขภาพ  (2547)  สำนักพิมพ์สุขภาพใจ หน้า 103-104)

               เมล็ดองุ่นมีสรรพคุณมากขนาดนี้ คราวหน้ากินองุ่นอย่าบ้วนเม็ดองุ่นทิ้งเสียล่ะ เคี้ยวไปกับเนื้อองุ่นเลย ขมหน่อยฝาดนิดแต่มีประโยชน์นะ  จะบอกให้