คำสั่งเสียของเหล่าสุลต่อนอุษมานียะฮฺ

        สุลต่อนอุษมาน  อิบนุ  อัรฏุฆฺรุ้ล  ผู้สถาปนามหาอาณาจักรอุษมานียะฮฺทรงสั่งเสียอูรุคข่าน  โอรสของพระองค์ตามคำบันทึกของกามิล  ปาชา  มหาเสนาบดีในตารีค  ซิยาซีย์  เดาลัต  อะลียะฮฺ  อุษมานียะฮฺว่า  : 

“โอ้ลูกรักของข้า  เจ้าจงรู้เถิดว่า  การเผยแผ่ศาสนาอิสลามและการชี้นำผู้คนสู่ศาสนาอิสลาม  และการปกป้องเกียรติยศและทรัพย์สินของชาวมุสลิมนั้นคือ  ภารกิจที่ต้นคอของเจ้า  ซึ่งพระองค์อัลลอฮฺ  (ซ.บ.)  จะทรงสอบสวนเจ้าถึงภารกิจนั้น”

        กอดิร  มิซฺร์  อุฆฺลู  นักประวัติศาสตร์ชาวตุรกีร่วมสมัย  ถ่ายทอดคำสั่งเสียของสุลต่อนอุษมานที่มีต่ออูรุคข่าน  โอรสของพระองค์ในหนังสือ : “โศกนาฏกรรมของวงศ์อุษมาน”  ว่า  : 

“โอ้ลูกรักของข้า  ตัวพ่อนี้จักต้องกลับสู่พระผู้อภิบาลเป็นแน่แท้  และพ่อก็ภาคภูมิใจว่าเจ้าจักเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมในหมู่ประชาราษฎร์  เป็นผู้ต่อสู้ในวิถีทางแห่งเอกองค์อัลลอฮฺเพื่อที่เราจักได้เผยแผ่ศาสนาอิสลามให้ขจรขจายออกไป

โอ้ลูกรักของข้า  พ่อขอสั่งเสียให้เจ้าจงยึดมั่นในบรรดาปราชญ์แห่งประชาชาติ  เจ้าจงใส่ใจต่อพวกเขาเป็นเนืองนิตย์  และจงให้เกียรติพวกเขามากมาก  และเจ้าจงปรึกษาหารือกับพวกเรา  เพราะพวกเขาจะไม่ใช้ให้กระทำสิ่งใดนอกจากความดี

โอ้ลูกรักของข้า  เจ้าจงพึงระวังให้จงหนักในการที่เจ้าจะกระทำเรื่องใดก็ตามที่พระองค์อัลลอฮฺ  (ซ.บ.)  ไม่พึงพอพระทัย  เมื่อเจ้ามีเรื่องลำบากใจ  เจ้าจงสอบถามบรรดาปราชญ์แห่งนิติธรรม  เพราะพวกเขาจะชี้แนะเจ้าให้กระทำสิ่งดีงาม

โอ้ลูกรักของข้า  เจ้าจงรู้เถิดว่าแนวทางหนึ่งเดียวของเราในโลกนี้คือแนวทางของพระองค์อัลลอฮฺ  (ซ.บ.)  และเป้าหมายหนึ่งเดียวของเราก็คือการเผยแผ่ศาสนาของพระองค์  และเรามิใช่ผู้แสวงหาลาภยศสรรเสริญและโลกใบนี้”

        อับดุลกอดิร  ซาดะฮฺ  อูฆฺลู  นักประวัติศาสตร์ชาวตุรกีร่วมสมัยได้ถ่ายทอดคำสั่งเสียของสุลต่อนอุษมานเอาไว้ในหนังสือของเขาที่ชื่อ  :  “อัตตารีค  อัลอุษมานีย์  อัลมุเซาวฺวัร” ด้วยอีกสำนวนหนึ่งว่า  :
คำสั่งเสียอันดับแรกของข้าที่มีต่อบรรดาลูกหลานของข้าและเหล่าผู้มีเกียรติสำหรับข้าทั้งปวง  คือ  พวกเขาจะต้องไม่ละทิ้งการต่อสู้  (ญิฮาด)  ในวิถีทางแห่งการเทิดทูนพระดำรัสของพระองค์อัลลอฮฺ  (ซ.บ.)  ให้สูงเด่น  และการเผยแผ่ศาสนาอิสลามอันทรงเกียรติ  ตลอดจนการชูธงแห่งศาสดามุฮำหมัด  (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)  ให้สูงล้ำ  และเวลาของพวกเจ้าทั้งหลายจงใช้ไปในการรับใช้ศาสนาอิสลาม  และเผยแผ่ถ้อยคำแห่งเอกานุภาพในทิศานุทิศของโลกทั้งปวง  ข้าขอกล่าวแก่พวกเจ้าว่า  :  ตัวข้านี้วิงวอนขอต่อพระองค์อัลลอฮฺ  (ซ.บ.)  ว่าขอพระองค์ทรงหักห้ามการอนุเคราะห์ของศาสดามุฮำมัด  (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)  ในวันปรโลก  จากบุคคลทุกคนในหมู่พวกเจ้าที่ห่างเหินจากแนวทางแห่งอิสลาม  อธรรมต่อผู้คนและละทิ้งการญิฮาด”

        คำสั่งเสียของสุลต่อนมุฮำหมัด  อัลฟาติฮฺ  ข่าน  แก่บายะซีด  โอรสของพระองค์  ตามรายงานของแหล่งอ้างอิงในภาษาตุรกี  (เติร์กิชฺ)  : 
“โอ้ลูกรักของข้า  แท้จริงการเผยแผ่ศาสนาอิสลามในโลกคือ  หน้าที่ของเหล่ากษัตริย์บนหน้าโลก  ดังนั้นเจ้าจงทำการเผยแผ่ศาสนาของพระองค์อัลลอฮฺ  (ซ.บ.)  อย่างสุดความสามารถ”

โอ้ลูกรักของข้า  จงทำให้ถ้อยคำของศาสนาอยู่เหนือทุกคำพูด  และเจ้าจงระวังต่อ การที่เจ้าจะหลงลืมเพิกเฉยจากเรื่องหนึ่งเรื่องใดของศาสนา  จงทำให้บรรดาผู้ไม่ใส่ใจต่อเรื่องราวของศาสนาห่างไกลจากตัวเจ้า  และเจ้าจงพึงระวังต่อการที่เจ้าจะดำเนินเบื้องหลังบรรดาอุตริกรรมที่น่าชัง

โอ้ลูกรักของข้า  จงสร้างความใกล้ชิดกับบรรดานักปราชญ์และจงเทิดทูนพวกเขาให้สูงส่ง  เพราะพวกเขาคือคลังแห่งความรู้

โอ้ลูกรักของข้า  จงระวังต่อการที่ทรัพย์สินและเหล่าทหารอันมากมายทำให้เจ้าเพลิดเพลินไปกับมัน  และเจ้าจงระวังต่อการฝ่าฝืนบัญญัติของศาสนาในเรื่องใด ๆ ก็ตาม  และจงมุ่งมั่นต่อศาสนา  เพราะศาสนาคือความเร้นลับแห่งชัยชนะของเรา”

        ธรรมนูญแห่งมหาอาณาจักรอุษมานียะฮฺ ได้กำหนดภารกิจของเหล่าสุลต่อนในราชวงศ์เอาไว้  ดังนี้

1. สุลต่อนต้องอ่อนน้อมต่อหลักนิติธรรมอิสลามโดยดุษฎี
2. สุลต่อนต้องให้เกียรติและเทิดทูนต่อหลักนิติธรรมอิสลามและบรรดานักปราชญ์แห่งอิสลาม
3. สุลต่อนต้องพิทักษ์สถานที่ศักดิ์สิทธิของชาวมุสลิมและจัดระเบียบกิจการฮัจญ์ด้วยความใส่พระทัย
4. สุลต่อนต้องปกป้องดินแดนหัวเมืองของชาวมุสลิมจากการรุกรานของเหล่าอริราชศัตรู