ความนุ่มนวลในการเรียกร้องสู่ความดี
และพระองค์ได้ทรงมีบัญชาให้ทั้งสองท่านนั้นปฏิบัติตามพระดำรัสของพระองค์ที่ว่า
“ท่านทั้งสอง (มูซาและฮารูน) จงไปยังฟิรอูนเถิด เพราะแท้จริงฟิรอูนนั้นได้ก่อกรรมทำเข็ญ (ละเมิด) และท่านทั้งสองจงกล่าวแก่ฟิรอูนด้วยคำพูดที่อ่อนโยนนิ่มนวล หวังว่าบางทีฟิรอูนจะได้รำลึก (มีสติ) หรือเกิดความยำเกรง” (ตอฮา อายะห์ที่ 43)
เมื่อชายผู้นั้นได้รับฟังคำพูดของคอลีฟะห์ อัลมะอ์มูน ซึ่งโต้ตอบด้วยพระดำรัสของพระผู้เป็นเจ้า (ซ.บ.) เขาก็ได้สำนึกและนิ่งเงียบโดยมิอาจจะสาวความให้ยืดยาวได้อีกต่อไป” บุคคลใดได้เรียนรู้การโต้คารมของท่านศาสนทูตมูซา (อ.ล.) กับฟิรอูนผู้อหังการที่ถูกระบุไว้ในอัลกุรอานก็จักพบว่าท่านศาสนทูตแห่งพระองค์อัลลอฮ (ซ.บ.) ที่กำชับเอาไว้และปฏิบัติตามคำบัญชานั้นอย่างครบถ้วนทั้ง ๆ ที่ฟิรอูนมีความอหังการและความเย่อหยิ่งอย่างที่สุด ตลอดจนยังได้กล่าวโจมตีและปรักปรำท่านศาสนทูตมูซา (อ.ล.) ต่าง ๆ นานาซ้ำร้ายยังได้ขู่คุกคามเอาชีวิตของท่านด้วยซ้ำไป….
(จากหนังสือ อัซเซาะฮ์วะฮ์ อัลอิสลามียะห์ บัยนัล ญุฮุด วัตตะตอรรุฟ ของ ดร. ยูซุฟ อัลกอรฎอวีย์ หน้า 213-214)