ความยุติธรรมคือรากฐานแห่งอำนาจ

               มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งได้โกงที่ดินทำกินของชายผู้เป็นประชาชนธรรมดา ชายผู้นี้จึงได้ร้องเรียนถึงท่านคอลีฟะห์ อบู ญะอ์ฟัร อัลมันซู๊ร แห่งราชวงศ์อับบาซียะห์ (คอลีฟะห์ลำดับที่ 2 สิ้นพระชนม์ ฮ.ศ.158/ค.ศ.775) เมื่อเข้าเฝ้าเบื้องหน้าคอลีฟะห์ ชายผู้นี้ได้กล่าวทูลขึ้นว่า : โอ้ ท่านผู้เป็นประมุขแห่งพสกนิกรผู้ศรัทธา ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงให้พระองค์ท่านมีความเจริญในธรรม”


              
ข้าพระองค์จะทูลให้ทรงทราบถึงธุระคดีของข้าพระองค์เลยหรือว่าข้าพระองค์จะยกอุทาหรณ์นั้นแก่ข้าเสียก่อนเถิด” ว่าแล้วเมื่อได้รับพระราชทานคำอนุญาติชายผู้นี้ก็เริ่มสาธยายในทันทีว่า : อันว่า เด็กน้อยผู้เยาว์วัยนั้น คราใดที่มีสิ่งไม่ปรารถนาเกิดขึ้นกับตน เด็กน้อยก็จักฟ้องแม่ของตน โดยเข้าใจว่า ที่ต้องฟ้องแม่ก็เพราะไม่มีใครนอกจากนางที่จะช่วยเหลือตนได้


              
ครั้นเมื่อเติบโตเจริญวัย เขาก็จะหันมาฟ้องพ่อของตน เพราะเขาเชื่อว่า ผู้เป็นพ่อย่อมแข็งแรงกว่าแม่ของตนและพร้อมที่จะช่วยเหลือเสมอ เมื่อเด็กน้อยกลับกลายเป็นชายฉกรรจ์ เพลาใดเมื่อเกิดเรื่อง เขาก็จักร้องเรียนถึงผู้ปกครอง เพราะเขาทราบดีว่า ผู้ปกครองซึ่งมียศศักดิ์ย่อมแข็งแรงมากกว่าพ่อของตน ครั้นหากว่ากำลังสติปัญญาของเขาเพิ่มขึ้น เขาก็จักร้องเรียนถึงซุลตอนผู้มีอำนาจสูงสุด   เพราะเขาทราบดีว่า  ซุลตอนนั้นย่อมเข้มแข็งมากกว่ามนุษย์ทั้งหมด 


              
แต่ถ้าหากว่าซุลตอนไม่ให้ความเป็นธรรมแก่เขา เขาก็จักร้องเรียนโอดครวญต่อพระองค์อัลลอฮ (ซ.บ.)  และแน่แท้ ได้มีภัยพิบัติเกิดขึ้นกับข้าพระองค์ และไม่มีผู้ใดอีกแล้วจากมวลมนุษย์ที่จะมีอำนาจเหนือพระองค์ และเข้มแข็งไปกว่าพระองค์ท่าน ดังนั้นถ้าหากพระองค์ท่านได้ให้ความเป็นธรรมแก่ข้าพระองค์ในธุระคดีนั้น เรื่องก็เป็นที่ยุติ


              
และหากไม่เป็นเช่นนั้นข้าพระองค์ก็จะกราบทูลเรื่องของข้าพระองค์ยังอัลลอฮ  (ซ.บ.) เพราะย่อมไม่มีผู้ใดเข้มแข็งไปกว่าพระองค์นอกจากเอกองค์พระผู้เป็นเจ้า” เมื่อจบคำกล่าวทูลของชายผู้นี้ท่านคอลีฟะห์ อบู ญะอ์ฟัร อัลมันซูร จึงตรัสตอบว่า: “หามิได้ เราจักให้ความเป็นธรรมแก่ท่าน”


              
ท่านคอลีฟะห์จึงได้ทรงมีพระราชสาส์นถึงข้าราชการผู้เป็นเสนาบดีนั้นให้ส่งมอบที่ดินทำกินแก่ชายผู้นี้ อีกทั้งให้อำนวยความสะดวกเพื่อให้ชายผู้นี้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขอีกด้วย นักกวีชาวอาหรับได้ร้อยเรียงบทกลอน สอนใจชนมุสลิมให้ยึดมั่นในศรัทธาต่อพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ว่า

จงอย่าเรียกร้องความต้องการต่อพงศ์พันธุ์แห่งอาดัม
และจงขอต่อพระผู้ทรงซึ่งประตูของพระองค์มิถูกปิดกั้น
พระองค์อัลลอฮก็จักทรงโกรธกริ้วมาตรว่าท่านละทิ้งการวิงวอนต่อพระองค์  และพงศ์พันธุ์แห่งอาดัมขณะที่ถูกร้องขอจะโกรธเคือง

(คัดจากหนังสือ อัลมุฟริดุ้ลอัม ฟี รอซมิ้ลก่อลัม ของซัยยิด อะห์หมัดอัลฮาชิมีย์ หน้า 234)