มารยาทอันงดงาม
มีอยู่วันหนึ่ง ท่านราชครูของอัรรอฎี บิลลาฮ์ (มุฮัมมัด อิบนุ อัลมุกตะดิร ดำรงตำแหน่งคอลีฟะห์ในราชวงศ์อับบาซียะห์ลำดับที่ 20 ฮ.ศ. 322-329 / คศ. 934-940) ได้สอนให้อัรรอฎี ทรงศุภอักษรถึงคำกล่าวของท่านกุตัยบะห์ อิบนุ มุสลิมผู้เป็นปราชญ์และจอมทัพแห่งราชวงศ์อุมาวียะห์ดังนี้
“บุคคลใดอวดโตและเย่อหยิ่ง บุคคลผู้นั้นย่อมลำพองในทัศนะของตน และบุคคลใดลำพองในทัศนะของตน เขาก็จักไม่รับฟังคำพูดของเหล่าผู้เตือนสติทั้งหลาย และบุคคลใดมีลักษณะลำพอง และมีนิสัยเผด็จการ ผู้นั้นย่อมห่างไกลจากความถูกต้องและใกล้ชิดกับความอัปยศและบุคคลใดอวดโตและประมาทศัตรู เขาย่อมเบาความจากการระวังศัตรูและบุคคลใดเบาความจากการระวังศัตรู ความวิบัติของเขาย่อมมีมาก และไม่มีผู้ใดจะรอดปลอดภัยจากศัตรู นอกเสียจากผู้นั้นระแวดระวังยิ่งกว่าอีกาและแน่แท้
ได้มีคำขับขานว่า ผู้ลำพองย่อมไร้ซึ่งความเห็นที่ถูกควร และผู้เย่อหยิ่งย่อมไร้มิตร และผู้ใดปรารถนาที่จะให้ผองชนรักใคร่ต่อตน ก็จงทำตนให้เป็นที่รักของผองชนและสร้างความใกล้ชิดกับพวกเขาเสียก่อน” เมื่ออัรรอฎี บิลลาฮ์ ได้ท่องจำคำกล่าวของท่านกุตัยบะห์อย่างขึ้นใจและเข้าใจถึงความหมายของมันแล้ว อัรรอฎี บิลลาฮ์ก็ยังเกิดความสบายใจเป็นอันมาก และกล่าวแก่ราชครูของเขาว่า “หวังว่ากาลเวลาจะทำให้ฉันบรรลุถึงการที่ฉันจะฝึกฝนมารยาทด้วยคุณธรรมอันน่าสรรเสริญและฉันจะประดับประดาตัวของฉันด้วยจริยธรรมอันทรงคุณค่าเหล่านี้” และอัรรอฎี บิลลาฮ์ ก็เป็นเช่นนั้นดังใจหมาย
(คัดจาก อัลมุฟร่อดุ้ล อะลัม ฟีรอซมิลก่อลัม หน้า 214)