สักขีพยานแห่งความบริสุทธิ์ของท่านหญิงอาอิชะห์ (ร.ฎ.)


               นักวิชาการผู้สันทัดกรณีบางท่านได้ระบุว่า : เมื่อท่านศาสนทูตยูซุฟ (อ.ล.) ได้ถูกปรักปรำด้วยข้อหาลวนลามและปลุกป้ำภรรยาของท่านอะซีซ เสนาบดีของอียิปต์ผู้เป็นนายของท่านศาสนทูต (อ.ล.) ซึ่งเป็นข้อหาร้ายแรง พระองค์อัลลอฮ (ซ.บ.) ได้ทรงให้พระองค์ท่านศาสนทูต ยูซุฟบริสุทธิ์จากมลทินของข้อหานั้นด้วยคำพูดของเด็กทารกที่ยังอยู่ในเปล

               และท่านหญิงมัรยัม เมื่อครั้งถูกปรักปรำด้วยข้อหาผิดประเวณีจนตั้งครรภ์ท่านศาสนทูตอีซา (อ.ล.) โดยไม่มีพ่อ พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ได้ทรงให้พระนางท่านบริสุทธิ์จากมลทินของข้อห้าอันฉกาจนั้นด้วยคำพูดของท่านศาสนทูตอีซา (อ.ล.) ผู้เป็นบุตรของนางขณะยังเป็นทารก

               อีกทั้งท่านญุรอยจ์นักปฏิบัติธรรมแห่งชนอิสรออีล เมื่อคราวถูกใส่ร้ายจากหญิงโสเภณีว่าท่านญุรอยจ์ลอบได้เสียกับนางจนตั้งครรภ์และคลอดลูก  ภายหลังหญิงโสเภณีได้อุ้มทารกที่เกิดจากคนเลี้ยงแกะข้างอาศรมของท่านญุรอยจ์ก็เที่ยวโพทนาว่าพ่อของเด็กคือ ญุรอยจ์จนเป็นเหตุทำให้ชนอิสราเอลที่เคารพนับถือและยกย่องท่านญุรอยจ์พากันไปทำลายรื้อถอนอาศรมและประชาทัณฑ์ท่าน พระองค์อัลลอฮ (ซ.บ.) ได้ทรงทำให้ท่านญุรอยจ์บริสุทธิ์จากข้อมลทินนั้นด้วยคำพูดของทารกที่ยืนยันว่าพ่อของตนคือชายเลี้ยงแกะ

               ส่วนท่านหญิงอาอิชะห์ (ร.ฎ.) ผู้เป็นมารดาแห่งศรัทธาชนนั้นเมื่อคราที่รพะนางถูกปรักปรำใส่ร้ายว่าผิดประเวณีจากโพทนาของเหล่าชนผู้กลับกลอก พระองค์อัลลอฮ (ซ.บ.)  ได้ทรงทำให้พระนางบริสุทธิ์จากข้อมลทินนั้นด้วยพระดำรัสของพระองค์เองในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พระองค์มิทรงพึงพอพระทัยในการประกาศความบริสุทธิ์ของพระนางด้วยคำพูดของเด็กทารกหรือคำพูดของท่านศาสนทูตเอง

               หากแต่พระองค์ได้ทรงประกาศความบริสุทธิ์ของพระนางเอาไว้ในอัลกุรอานจากข้อปรักปรำทั้งมวล


               (อ้างจากตัฟซีร อัลกุรตุบีย์ 12/212)
               (คัดจากหนังสือ ตัฟซีร ซอฟวะห์ อัตตะฟาซีร 2/338)