อ.อาลี เสือสมิง : ถามตอบปัญหา

สารบัญปัญหาคาใจ => หมวด : เรื่องอื่นๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: อิสมาอิล ที่ มกราคม 20, 2012, 08:14:34 pm

หัวข้อ: คำถามไม่ได้คาใจ
เริ่มหัวข้อโดย: อิสมาอิล ที่ มกราคม 20, 2012, 08:14:34 pm
อัสลามุอลัยกุม วาเราะห์มาตุลลอฮ์ฮิวาบารอกาตุฮ์ อาจารย์อาลีที่เคารพนับถือยิ่ง


            กระผมต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากว่าคำถามที่กระผมได้ถามไปนั้น ถ้าหากมีคำพูดใดที่อาจารย์รู้สึกไม่ดี ผมต้องขออาจารย์อภัยให้ผมด้วย ผมไม่ได้มีเจตนาใดๆทั้งสิ้น กระผมกลัวมากๆ และก็ไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง กลัวว่าอาจารย์จะไม่พอใจผม ยิ่งอาจารย์เป็นผู้รู้ด้วย ผมก็ยิ่งกลัวมากยิ่งขึ้น

          การตั้งหัวข้อ \"คำถามคาใจของข้าพเจ้า\" กระผมนึกไม่ออกว่าจะตั้งยังงัย เลยตั้งหัวข้อไปอย่างงั้นเองครับ

          ประโยค...\"หวังว่าคุณไม่คาใจอะไรในตัวผมอีก แต่ถ้ายังคาใจในตัวผม ก็ขออย่าได้เป็นกังวล เพราะคุณก็คือคุณ ผมก็คือผม ผมรับผิดชอบตัวเอง คุณก็รับผิดชอบตัวคุณเอง\" และยิ่งด้วยประโยคนี้ กระผมก็ยิ่งรู้สึกทรมานจิตใจเป็นอย่างยิ่ง กระผมหาได้คาใจอาจารย์อันใดไม่

         ญาซากัลลอฮูคอยร๊อน กับคำตอบที่อาจารย์ได้เสียสละกรุณาอธิบาย

         ผมเองก็เป็นมุสลิมชาฟิอียฺธรรมดาๆ ต่ำต้อยและโง่เขลาคนหนึ่ง และกระผมก็ไม่ได้รับมุบายะฮฺจากเฏาะรีเกาะฮฺศูฟียะฮฺ แต่แค่เป็นคนที่สนใจแนวทางตะเศาวุฟและเฏาะรีเกาะฮเท่านั้นเอง

          วิถี (เฏาะรีเกาะฮฺ) และวิธี (กัยฟียะฮฺ) ในการดำเนินชีวิตของ (อาจารย์)  อินชาอัลลอฮ์กระผมเองก็จะขออนุญาตินำมาใช้ในการดำเนินชีวิตของกระผมด้วย  
         
         ขณะนี้ยังไม่มีคำถามใด หากมีคำถามสงสัยเกิดขึ้น กระผมต้องขออนุญาตถามอาจารย์ในวันหน้า อินชาอัลลอฮ์

         สุดท้ายนี้ หากมีสิ่งใดที่ทำอาจารย์รู้สึกระคายใจกับคำพูดใดๆ กระผมขอมาัอัฟทั้งซอเฮรและบาเตน และกรุณาดุอาห์ให้กระผมได้รับความดีและความพึ่งพอพระทัยจากอัลลอฮ์ ทั้งดุนยาและอาคีเราะห์ด้วยครับ

                               อิสมาอิล บิน มูฮำหมัด ณ ปัตตานี
หัวข้อ: ตอบ : คำถามไม่ได้คาใจ
เริ่มหัวข้อโดย: อาลี เสือสมิง ที่ มีนาคม 18, 2012, 09:22:07 pm
وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته

จริงๆ แล้วสิ่งที่ผมได้ตอบไปในคราวก่อนนั้นเป็นการตอบคำถามที่ไม่ใช่ปัญหาทางศาสนา หากแต่เป็นการตอบสิ่งที่คุณอิสมาแอลได้ถามมาเกี่ยวกับตัวของผมเอง และการตอบนั้นก็หมายสื่อถึงทุกคนที่เข้ามาอ่านคำตอบนั้น เพราะเป็นการตอบที่เปิดเผยต่อสาะรณชน ส่วนประโยคที่ผมตอบไปแล้วเป็นเหตุให้คุณอิสมาอีลไม่สบายใจหรือเป็นกังวลว่าผมจะขุ่นเคือง ก็ขอให้คุณอิสมาอีลสบายใจได้เลยว่าผมไม่ได้ขุ่นเคืองหรือรู้สึกระคายใจกับสิ่งที่คุณอิสมาอีลถามมา


ประโยคนั้นคือจุดยืนของผมและเป็นสิ่งที่ผมมักจะกล่าวอยู่บ่อยครั้งในไฟล์เสียง แม้ถ้าถามผมอีก ผมก็จะตอบแบบนั้นเพราะจุดยืนนั้นได้กลั่นกรองแล้วจากการฟิเกรฺ ถึงแม้ว่าอ่านดูแล้วเหมือนประชดประชันด้วยอาการขุ่นเคืองก็ตาม เจตนาที่มุ่งหมายก็คือ ตัดความกังวลในข้อกังขาหรือข้อคาใจทั้งปวงด้วยบทสรุปที่ว่า เราแต่ละคนรู้ตัวรู้ใจตนดีกว่าใคร ความเป็นตัวตนของแต่ละคนเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล ตนทำดีตนก็รับชอบ ตนทำผิดก็รับผิด แต่ละคนรับผิดและรับชอบสิ่งที่ตนกระทำ


สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือ คนเราชอบตั้งคำถามกับคนอื่นแต่ไม่ชอบตั้งคำถามกับตนเอง คนเราชอบถามหาความรับผิดชอบจากคนอื่น แต่ลืมที่จะถามหาว่าตนเองก็ต้องรับผิดชอบเรื่องของตนเอง คนเราชอบตั้งข้อสังเกตในการกระทำของคนอื่น แต่มักจะลืมตั้งข้อสังเกตกับพฤติกรรมของตนเอง บ่อยครั้งที่เราคาใจในพฤติกรรมของคนอื่นประหนึ่งดังว่าสิ่งที่เราคาใจในตัวเขา คือสิ่งที่อัลลอฮฺ (ซ.บ.) จะสอบสวนและเอาผิดกับเรา ทั้งๆ ที่เราไม่ต้องแบกรับและไม่ต้องเป็นธุระแทนหรือเป็นทนายแก้ต่างให้แก่เขาผู้นั้นเลย


กระนั้นเราก็ไม่คำนึงว่าตัวเราต่างหากเล่า ที่เราจะต้องแบกรับ คนอื่นจะเป็นเช่นใด เราก็ไม่ต้องแบกรับอยู่แล้ว ตัวเราต่างหากที่จะต้องแบกรับเรื่องของเรา เขาจะเป็นคนที่น่าคาใจหรือโปร่งใสเพียงใด นั่นก็คือเขา มิใช่เรา ทุกวันนี้คนเราชอบทำตัวเป็นกุลี ชอบแบกชอบหามเรื่องของคนอื่น ทั้งๆ ที่เขาก็ไม่ได้ขอและไม่ได้จ้างให้เราไปแบก กุลีคือคนที่แบกของให้คนอื่น และของนั้นก็ไม่ใช่ของตัว ซ้ำร้ายบางทีมีของของตัวที่ต้องแบก แต่ไปสาละวนยุ่งอยู่กับการแบกของของคนอื่น


จนลืมของของตัวเองไว้ข้างหลัง นี่แหล่ะคือสิ่งที่ผมมุ่งหมายถึงในประโยค ไม่ได้เจตนาว่ากล่าวคุณอิสมาอีลแต่อย่างใดเลย หากรักและเคารพกันจริงก็ขอให้วางใจเพราะผมบอกแล้วว่า “หวังว่าคุณไม่คาใจอะไรในตัวผมอีก” ฉนั้นก็อย่าได้คาใจเพราะผมบอกไปหมดเปลือกแล้ว ส่วนประโยคที่ว่า “แต่ถ้ายังคาใจในตัวผม” หากไม่คาใจแล้วก็ไม่มีแต่ เมื่อคุณไม่คาใจแล้วก็ย่อมไม่มีแต่เช่นกัน กระนั้นผมก็เผื่อเอาไว้อีกว่า “ก็ขออย่าได้เป็นกังวล” เมื่อไม่กังวลแล้วก็ไม่มีคำว่า “อย่า” อีกเช่นกัน แล้วผมก็ทิ้งท้ายว่า “เพราะคุณก็คือคุณ ผมก็คือผม ผมรับผิดชอบตัวเอง คุณก็รับผิดชอบตัวคุณเอง”


นั่นแหล่ะคือจุดยืนของผม ที่ผมมุ่งหมายสื่อถึงคนอ่านทุกคน และมีเจตนาตัดความกังวลให้จบลงอย่างเด็ดขาด ไม่ได้มีเจตนาจะยอกย้อนให้รู้สึกทรมานจิตใจแม้แต่น้อย แต่ถ้าคำพูดนั้นมันส่งผลข้างเคียงอย่างที่ว่า ผมเองต่างหากที่จะต้องขอมะอัฟ เพราะการเขียนด้วยตัวอักษรบางทีก็บกพร่องในการให้ความกระจ่าง ไม่เหมือนกับการพูดคุยด้วยถ้อยคำที่สื่อได้ทั้งสองทางและง่ายในการสร้างความเข้าใจ


สิ่งที่คุณอิสมาอีลเขียนมานั้นบอกได้เลยว่าคุณกับผมคือกัน ผมก็เป็นมุสลิมชาฟิอียฺธรรมดาๆ คนหนึ่งเช่นกัน เคยโง่มาก่อน แม้ทุกวันนี้ก็ใช่ว่าจะฉลาดกว่าแต่ก่อน เรื่องที่ผมโง่เขลามีมากกว่าที่ผมรู้เสียอีก ส่วนความต่ำต้อยนั้นมีมาตั้งแต่เกิดและมันก็คงจะอยู่กับผมเช่นนั้นจนถึงวันตาย ดังนั้น ความกลัวที่คุณบอก กลัวว่าผมจะไม่พอใจเพราะเป็นผู้รู้ เป็นอาจารย์ เลยทำให้กลัวหนักขึ้นไปอีก ข้อนี้ไม่ต้องกลัวเลยแม้แต่น้อย เพราะคุณไม่ได้ซอลิมฺต่อผม และผมก็ไม่ได้ถูกซอลิมฺ ดุอาอฺของผมมีไว้เพื่อสร้างความหวัง ไม่ได้มีไว้เพื่อทำลาย


แม้คนที่จาบจ้วงและซอลิมฺต่อผม ผมก็ไม่เคยหลุดปากขอต่ออัลลอฮฺ (ซ.บ.) ให้เล่นงานพวกเขา เพราะท้ายที่สุดคนที่ทำลายตัวเองด้วยการซอลิมฺต่อคนอื่นก็ย่อมแพ้ภัยของตนเองไม่ช้าก็เร็ว ที่สำคัญผมมิใช่ผู้รู้ สิ่งที่ผมเป็นคือผู้เรียนรู้และใฝ่รู้ สิ่งที่ผมพากเพียรก็คือ ลดความโง่เขลาของตัวเองด้วยการเรียนรู้ แต่ความโง่เขลานี้เป็นของแปลก เพราะแทนที่จะรู้มากขึ้นและโง่น้อยลง กลับกลายเป็นว่า ยิ่งรู้มากเท่าใด ก็ยิ่งรู้ว่าโง่มากขึ้นเท่านั้น


ความเป็นผู้รู้ของผมไม่มีอะไรมากไปกว่าโง่น้อยกว่าคนอื่นในบางเรื่องเท่านั้น คนที่คุณสมควรกลัวรวมถึงผมด้วย ไม่ใช่ตัวผม แต่เป็นคนรักของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) คนเหล่านี้แหล่ะที่เราต้องกลัวว่าเราจะไปล่วงเกินพวกเขา เพราะเมื่อเราไปล่วงเกินคนรักของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ก็เท่ากับเรากำลังประกาศสงครามกับพระองค์ วัลอิยาซุบิลลาฮฺ เอาเป็นว่า ขอให้คุณอิสมาอีลสบายใจและไม่ต้องกังวลในข้อเขียนของผมที่ตอบไป เพราะมันไม่มีอะไรจริงๆ


ส่วนที่จะขออิญาซะฮฺนำเอาวิถีและวิธีที่ผมตอบไว้เอาไปใช้นั้น ผมไม่ขัดแต่อย่างใด ท้ายที่สุดของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงพึงพระทัยต่อเราทุกคน ด้วยสลามและดุอาอฺ

อาลี ฮะรีเมาวฺ โต๊ะฮาลอ