อ.อาลี เสือสมิง : ถามตอบปัญหา
สารบัญปัญหาคาใจ => หมวด : การละหมาด => ข้อความที่เริ่มโดย: เบาปัญญา ที่ กันยายน 16, 2015, 10:15:31 pm
-
salam รบกวนอาจารย์สอบถามสามข้อนะครับ
1. อยากทราบว่าการละหมาดอิสเราะกับดุฮาอันเดียวกันหรือไม่ครับและ การละหมาดดุฮาไม่สงเสริมให้ทำเป็นประจำหรือครับ
สำหรับฮาดิษบทนี้หมายถึงอย่างไรครับ
รายงานจากอบี ดัรดาอฺ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ เขาได้กล่าวว่า
أَوْصَانِي حَبِيبِي صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بِثَلَاثٍ لَنْ أَدَعَهُنَّ مَا عِشْتُ بِصِيَامِ ثَلَاثَةِ أَيَّامٍ مِنْ كُلِّ شَهْرٍ وَصَلَاةِ الضُّحَى وَبِأَنْ لَا أَنَامَ حَتَّى أُوتِرَ
"มิตรสหายรักของฉันได้กำชับฉัน 3 ประการ ซึ่งฉันไม่เคยทิ้งมันเลยตราบที่มีชีวิตอยู่ คือ ถือศีลอด 3 วันของทุกเดือน ละหมาดดุฮา และไม่นอนจนกว่าทำละหมาดวิติร" รายงานโดยมุสลิม (1183)
2. การอาบนำ้ละหมาดที่ถูกต้องใช้นำ้เดียวแล้วถูให้ทั่ว หรือต้องราดนำ้ให้ผ่านตลอดครับ เช่น กรณีล้างแขนตักนำ้แล้วถูให้ทั่วหรือต้องปล่อยให้นำ้ไหลผ่านหรือจุ่มลงถูในนำ้ครับ กรณีเป็นคราบนำ้มันดำๆตามลายนิ้วมือต้องถูให้เกลี้ยงเลยหรือเปล่าครับซึ่งสามารถทำได้แต่ต้องใช้เวลานานมาก เพราะต้องล้างแล้วถูหลายๆเที่ยวจนมือมันเปื่อยละครับ
3. กรณีในละหมาดอีหม่านอ่านเราไม่รู้ความหมายสามารถที่จะซิกรุลอฮฺในใจระหว่างรอรูกั๊วได้หรือไม่ครับ ป้องกันจิตใจคิดฟุ้งซ่าน :smilie:
-
وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته
الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد
ข้อ 1
ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนุ อับบาส (ร.ฎ.) กล่าวว่า
" صَلَاةُ الإشْرَاقِ صَلَاةُالضُّحى "
“การละหมาดอัล-อิชรอกคือการละหมาดอัฏ-ฏุหา”
และนี่เป็นคำกล่าวที่ถูกยึดถือ (มุอฺตะมัด) ในมัซฮับอัชชาฟิอียฺ (อิอานะตุฏฏอลิบีน ; อัด-ดุมยาฏีย์ 1/293 ) ส่วนอิมามอัล-เฆาะซาลียฺ (ร.ฮ.) และผู้ที่เห็นด้วยกับท่านกล่าวว่า ละหมาดอัล-อิชรอกเป็นละหมาดอื่นที่มิใช่ละหมาดอัฎ-ฏุหา (อ้างแล้ว 1/295 ) ดังปรากฏในตำราชัรหุ อัล-อุบ๊าบ ว่า (رَكْعَتَاالْإِشْرَاقِ غَيْرُالضُّحى) สองรอกอะฮฺของอัลอิชรอกนั้นอื่นจากอัฎ-ฎุหา (อ้างแล้ว 1/293 )
และในสายรายงานหะดีษละหมาดอัล-อิชรอกนั้นมีอิบรอฮีม อิบนุ หิบบาน ซึ่งนักวิชาการหะดีษระบุว่า สากิฏ (سَاقِط) บ้างก็ว่า เฎาะอีฟ ชอบเล่าหะดีษเมาวฺฏอฺจากบรรดาบุคคลที่เชื่อถือได้ (อัล-ฟะวาอิด อัล-มัจญ์มูอะฮฺ ; อัช-เชากานียฺ หน้า 68 หะดีษเลขที่ 162/122 )
อิมามอิบนุ หะญัร อัล-ฮัยษะมียฺ (ร.ฮ.ป ระบุว่า : ในการที่อิมามอัล-เฆาะซาลียฺ (ร.ฮ.) กำหนดละหมาดอัล-อิชรอกว่าเป็นละหมาดอื่นนอกจากอัฎ-ฎุหานั้นมีประเด็นที่ต้องพิจารณา...และตามข้อชี้ขาดของมัซฮับ ไม่อนุญาตให้ทำละหมาดอัล-อิชรอกด้วยการตั้งเจตนาละหมาดอัล-อิชรอก เพราะไม่มีสิ่งใดระบุมาในเรื่องละหมาดอัล-อิชรอก...” (อัล-ฟะตาวา อัล-กุบรอ อัล-ฟิกฮิยะฮฺ ; อัล-อัยษะมียฺ 1/268 โดยสรุป)
ดังนั้นหากถือตามคำกล่าวที่ถูกยึดถือ (มุอฺตะมัด) ในมัซฮับ การละหมาดอัล-อิชรอกโดยเอกเทศนั้นไม่มี เนื่องจากหลักฐานมีปัญหา จึงให้ถือว่าละหมาดอัล-อิชรอกเป็นช่วงเวลาต้นของละหมาดอัฎ-ฎุหา และเป็นละหมาดอัฎ-ฎุหานั่นเอง
บรรดานักวิชาการสังกัดมัซอับอัช-ชาฟิอียฺกล่าวว่า : การละหมาดอัฎ-ฎุหาเป็นสุนนะฮฺ มุอักกะดะฮฺ (กิตาบอัล-มัจญ์มูอฺ ชัรหุลมุฮัซซับ ; อัน-นะวาวียฺ 3/529 ) และหลักฐานที่ยืนยันว่า ละหมาดอัฎ-ฎุหาเป็นสุนนะฮฺคือ อัล-ดีษที่รายงานโดยท่านอบูฮุรอยเราะฮฺ (ร.ฎ.) และอบู อัด-ดัรฺดาอฺ (ร.ฎ.) ดังที่อ้างมา การเป็นสุนนะฮฺมัชรูอียะฮฺของละหมาดอัฎ-ฎุหาเป็นทัศนะของปวงปราชญ์สะลัฟ และบรรดานักวิชาการฟิกฮฺรุ่นหลังทั้งหมด แต่มีรายงานจากท่านอิบนุ อุมัรฺ (ร.ฎ.) ว่าท่านเห็นว่าการละหมาดอัฎ-ฎุหาเป็นบิดอะฮฺ และมีรายงานจากท่านอิบนุ มัสอูด (ร.ฎ.) เช่นกัน (กิตาบอัล-มัจญ์มูอฺ ชัรฺหุลมุฮัซซับ 3/531)
อิมาม อัน-นะวาวียฺ (ร.ฮ.) ระบุว่า....แท้จริงท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) ท่านเคยละหมาดอัฎ-ฎุหาในบางเวลาและทิ้งการละหมาดอัฎ-ฎุหาในบางเวลา เนื่องจากเกรงผู้คนจะเชื่อว่าละหมาดอัฎ-ฎุหาเป็นวาญิบหรือเกรงว่า (ถ้าท่านกระทำเป็นเนืองนิตย์) ละหมาดอัฎ-ฎุหาจะถูกบัญญัติเป็นฟัรฎูเหนือพวกเขา เหมือนกับกรณีละทิ้งการกระทำสม่ำเสมอของการละหมาดตะรอวีห์ อันเนื่องมาจากความหมายนี้...” (กิตาบอัล-มัจญ์มูอฺ 3/530 )
นี่คือเหตุผลที่นักวิชาการอธิบายว่า ทำไมท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) จึงไม่ได้กระทำละหมาดอัฎ-ฎุหาเป็นประจำ แต่ที่ละหมาดอัฎ-ฎุหาเป็นสุนนะฮฺมุอักกะดะฮฺนั่นเป็นเพราะมีสุนนะฮฺเกาวฺลียะฮฺ (หะดีษอันเป็นคำพูดของท่าน) ถูกต้องและปรากฏอยู่ในศอฮีหฺอัล-บุคอรียฺและมุสลิม
ข้อ 2
การอาบน้ำละหมาดที่ถูกต้องคือล้างอวัยวะที่จำต้องล้างให้ทั่ว จะตักน้ำราดหรือจุ่มลงในน้ำหรือปล่อยให้น้ำผ่านก็ตาม ส่วนการถูนั้นเป็นสุนนะฮฺ ส่วนกรณีที่มีคราบน้ำมันต่างๆ ตามลายนิ้วมือ ต้องล้างคราบน้ำมันให้หมดและต้องถูให้เกลี้ยงจนค่อนข้างแน่ใจว่าน้ำทั่วถึงอวัยวะมือและไม่เหลือคราบน้ำมันมากันน้ำนั้น หากกระทำอย่างสุดความสามารถแล้ว เช่น คนที่เป็นช่างฟิต ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ที่ดีควรจัดการล้างและถูคราบน้ำมันนั้นให้เกลี้ยงเสียก่อนแล้วจึงค่อยอาบน้ำละหมาด ไม่ใช่ไปถูหรือล้างในขณะอาบน้ำละหมาด
ข้อ 3
เมื่ออิมามอ่านซูเราะฮฺ ให้มะอฺมูมตั้งใจฟังไม่ว่ามะอฺมูมจะเข้าใจความหมายของซูเราะฮฺที่อิมามอ่านหรือไม่ก็ตาม และในกรณีนี้ไม่มีสุนนะฮฺให้มะอฺมูมกล่าวซิกรุลลอฮฺใดๆ แต่ให้เงียบและตั้งใจฟังการอ่านของอิมาม
والله اعلم بالصواب