وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته
الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد...؛
เรื่องที่ถามมาแบ่งเป็น 2 ประเด็นดังนี้
1) ผู้หญิงหมดประจำเดือนแล้วแต่ยังไม่อาบน้ำยกหะดัษใหญ่ แล้วสามีของนางก็ร่วมหลับนอนกับนาง ทั้งๆ ที่นางยังไม่ได้อาบน้ำยกหะดัษใหญ่ กรณีนี้ปวงปราชญ์ (جُمْهُوْرُ الْعُلَمَاءِ) ถือว่าเป็นสิ่งต้องห้าม (หะรอม)
ส่วนอิมามอบูหะนีฟะฮฺมีทัศนะว่า หากเลือดประจำเดือนของนางหมดลงในช่วงเวลาการมีเลือดประจำเดือน (หัยฎ์) มากที่สุด (คือ 10 วันในทัศนะของท่าน) ก็อนุญาตให้มีเพศสัมพันธ์ได้ในขณะนั้น แต่ถ้าเลือดประจำเดือนของนางหมดลงในช่วงเวลาที่น้อยที่สุด การมีเพศสัมพันธ์ในขณะนั้นก็ไม่เป็นที่อนุญาตจนกว่านางจะอาบน้ำยกหะดัษใหญ่หรือทำตะยำมุมเสียก่อน (กิตาบ อัล-มัจมูอฺ ชัรหุลมุฮัซซับ เล่มที่ 2/397)
ดังนั้นหากถือตามทัศนะของปวงปราชญ์ การร่วมหลับนอนระหว่างสามีภรรยาขณะที่ภรรยาหมดรอบเดือนแล้วแต่ยังไม่ได้อาบน้ำยกหะดัษใหญ่ก็ถือว่าบุคคลทั้งสองได้กระทำสิ่งต้องห้าม มีบาปและจำเป็นต้องเตาบะฮฺตัวทั้งคู่ ในฝ่ายของภรรยานั้นไม่มีความจำเป็นต้องสียค่าปรับ (กัฟฟาเราะฮฺ) เหนือนางโดยมติเห็นพ้องในมัซฮับอัช-ชาฟิอี (กิตาบ อัลมัจมูอฺ เล่ม 2/399)
แต่สำหรับสามีนั้นนักวิชาการบางท่านระบุว่าจำต้องเสียค่าปรับ (กัฟฟาเราะฮฺ) จากการกระทำความผิดนี้ด้วยการทำทานเป็นจำนวนครึ่งดีนาร (เหรียญทองคำ) ประมาณ 2.25 กรัม โดยให้สอบถามจากร้านขายทองว่า 2.25 กรัมที่เป็นทองคำนั้นตีเป็นเงินกี่บาท แล้วก็ให้เอาเงินจำนวนนั้นทำเศาะดะเกาะฮฺไป (ฟะตาวา มุอาศิเราะฮฺ ; วะฮฺบะฮฺ อัซซุหัยลียฺ ; ดารุลฟิกริ ดิมัชกฺ หน้า 83)
ประเด็นที่ 2 กรณีอาบน้ำยกหะดัษใหญ่นั้น ให้อาบน้ำทั่วร่างกายโดยตั้งเจตนา (เหนียต) ว่า \"ข้าพเจ้าอาบน้ำยกหะดัษใหญ่ ซึ่งเป็นฟัรฎูเหนือข้าพเจ้า ก็เพียงพอแล้วโดยไม่ต้องเหนียต 2 ครั้ง เพราะทั้งการมีญะนาบะฮฺและการหมดเลือดประจำเดือน ซึ่งวาญิบต้องอาบน้ำนั้น เป็นหะดัษใหญ่ทั้งคู่นั่นเอง
والله اعلم بالصواب