الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد
โดยหลักการแล้วไม่มีเงื่อนไขในการที่สามีจะต้องขออนุญาต (อิซนฺ) ภรรยาคนที่ 1 กรณีที่สามีประสงค์จะนิกะหฺกับสตรีอีกคนหนึ่ง และทำนองเดียวกันไม่มีข้อกำหนดตามศาสนบัญญัติว่า จะต้องให้ภรรยาคนที่ 1 ไปเป็นพยานในการนิกะหฺของสามีกับสตรีอื่น
ดังนั้นหากฝ่ายสามีทำการนิกะหฺกับสตรีคนอื่นโดยครบองค์ประกอบสำคัญของการทำข้อตกลงนิกะหฺ (อักดุนนิกะหฺ) และไม่มีการทำผิดเงื่อนไขในการเศาะหฺนิกะหฺก็ถือว่าการนิกะหฺนั้นใช้ได้และเป็นผลตามศาสนบัญญัติแล้ว ภรรยาคนที่ 1 จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตก็ตาม
ส่วนในกรณีที่ฝ่ายสามีควรจะบอกให้ภรรยาคนที่ 1 รับรู้เรื่องดังกล่าวหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและความเหมาะสมตลอดจนเป็นเรื่องของการบริหารบุคคล ซึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัวที่ฝ่ายสามีมีภาระหน้าที่ต้องใช้ดุลยพินิจ และมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่พระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) จะทรงสอบสวนในการดำเนินตามภาระหน้าที่ดังกล่าว
والله ولي التوفيق