เรื่อง การ แต่งงาน แบบ มุตอะฮ์

[นาย ยะหยา บินกอเซ็ม]

สลาม ท่าน อาจารย์ อาลี เสือสมิง
ข้าพเจ้า ได้ รับทราบ ข้อมูล มามากมาย เกี่ยว กับเรือง การ แต่งงาน แบบ มุตอะฮ์ จากการ ติดตาม การ เสวนา ของ เด็กๆ บน เฟสบุค นั้น
ซึ่ง ทั้งสอง กลุ่ม คือ ชีอะอ์ และ ซุนนะฮ์ ต่าง อ้างอิง เหตุผล และ หลักฐาน ทั้ง ทาง อัล กุรอาน และ ฮะดิษ มามากมาย  แต่ ดูเหมือน ว่า เหตุผล และ หลักฐาน ของ ชีอะอ์ จะ ทำให้ ข้าพเจ้า ไข้วเขว อยู่เหมือนกัน เพราะ ซุนนะอ์ ตอบไม่เคลียร์ ซึ่งอาจเป็นเพราะ พวกเขา ไม่ใช้ ผู้รู้  ทาง ศาสนา จึง อยาก จะให้ อาจารย์ ช่วย ทำการชี้แนะ เกียวกับ ประเด็น นี้ ให้ กระจ่าง ด้วย
วัสลาม
ยะหยา บินกอเซ็ม

[อาลี เสือสมิง]

وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته
الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد

ฝ่ายหนึ่ง (ชีอะฮฺ) เชื่อว่านิกาหฺมุตอะฮฺเป็นสิ่งที่อนุญาตให้กระทำได้ อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ถูกส่งเสริมอีกด้วย อีกฝ่ายหนึ่ง (สุนนะฮฺ) ถือว่านิกาหฺมุตอะฮฺเป็นสิ่งที่ถูกยกเลิกไปแล้ว จึงไม่อนุญาตให้นิกาหฺมุตอะฮฺ ต่างฝ่ายต่างก็อ้างหลักฐานของตน เถียงกันมานานนับพันปี หลักฐานและเหตุผลจึงบานเบอะด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย


ผลสรุปที่ได้ก็คือ ฝ่ายที่เชื่อว่าได้ ก็ยังคงเชื่อเช่นนั้นและปฏิบัติกัน ฝ่ายที่ไม่เชื่อเช่นนั้นก็ยังคงยึดมั่นในแนวทางของตน เป็นเหมือนเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบ สำหรับเราผู้แสวงหาความกระจ่างจึงต้องหาหลักฐานเพื่อเป็นฐานความคิดและความเชื่อในเรื่องนี้ คือจับประเด็นของทั้ง 2 ฝ่ายให้ถูก


ประเด็นที่ว่าก็คือ เขาเถียงกันว่าอนุญาตหรือไม่ ฝ่ายหนึ่งว่าหะล้าล อีกฝ่ายหนึ่งว่าหะรอม ดูเหมือนว่าไม่มีฝ่ายใดที่พูดชัดเจนว่านิกาหฺมุตอะฮฺเป็นเรื่องวาญิบ แต่ที่ชัดเจนคือได้กับไม่ได้ มีเพียงแค่นี้ ดังนั้นจึงได้ประเด็นว่าไม่นิกาหฺมุตอะฮฺเสียดีกว่า เพราะอย่างไรเสียก็มิใช่สิ่งที่เป็นวาญิบ มีหนำซ้ำหากเป็นสิ่งที่หะรอมก็ไม่เสียหายในการถือศาสนาและทำให้ตัวเองบริสุทธิ์จากข้อกล่าวหา


หากเราไม่นิกาหฺมุตอะฮฺก็มิได้หมายความว่าการถือศาสนาของเราบกพร่อง ฝ่ายที่นิกาหฺมุตอะฮฺก็ต้องรับผิดชอบการกระทำของตน เมื่อเราไม่สามารถไปบังคับให้เขาเชื่ออย่างที่เราเชื่อได้ เพราะบอกอย่างไรก็ไม่เชื่อ เขาก็ย่อมไม่มีสิทธิมาบังคับให้เราเชื่อและทำตาม เพราะเราเชื่อในเรื่องนิกาหฺมุอับบัดเหมือนอย่างที่เขาเชื่อเช่นกัน ส่วนนิกาหฺมุตอะฮฺก็ทางใครทางมัน!

والله ولي التوفيق