น้ำดื่มเอนไซม์  (อ่าน 3670 ครั้ง)

ฮานาฟี

  • บุคคลทั่วไป
น้ำดื่มเอนไซม์
« เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 10:35:23 am »
  อัสลามมุอลัยกุมว่าเราะมะตุ้ลลอฮ์ว่าบารอกาตุฮ์ อาจารย์อาลี

      ผมมีปัญหาขอรบกวนเรียนถามอาจารย์อาลี เกี่ยวกับการกินน้ำหมัก EM หรือ น้ำหมักชีวภาพ หรือ น้ำหมักเอนไซม์ ตัวอย่างเช่น น้ำหมักลูกยอ ว่ามุสลิม สามารถกินได้หรือไม่
     ทั้งนี้เพราะผมได้อ่านข้อความเกี่ยวกับน้ำหมักดังกล่าว จาก http://friutenzyme.blogspot.com/ ของ ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธ์วงค์ บ้านรักษ์สุขภาพ มีข้อมูลบอกว่า
\"น้ำหมักชีวภาพ (น้ำเอนไซม์) ใช้สำหรับดื่มกินเป็นสารละลายที่อุดมไปด้วยสารอาหาร จำพวกโปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินดี วิตามินอี วิตามินเค ตลอดจนพวกกรดอะมิโน (Amino acid) และ อะเซทิลโคเอ (Acetyl CoA) ที่ได้จากหมักผลไม้นานาชนิดในระยะเวลานานกว่า 4 ปี โดยอาศัยจุลินทรีย์ท้องถิ่น หลากหลายชนิด ที่ปะปนอยู่ในวัตถุดิบ หรือในกระบวนการหมัก เพื่อเปลี่ยนผลไม้ และน้ำผึ้ง ให้ได้ผลผลิตตามต้องการ ซึ่งในระยะเริ่มแรกจะได้ผลิตภัณฑ์เป็นแอลกอฮอล์ สังเกตุได้จากมีกลิ่นฉุน มีแก๊ซเยอะ ระยะต่อมาได้ผลิตภัณฑ์เป็นน้ำส้มสายชู (รสเปรี้ยว กลิ่นเปรี้ยวหอม)
อีกระยะหนึ่งเป็นยาธาตุ (รสขม เปรี้ยวขม กลิ่นหอมคงที) ในที่สุดก็ได้เป็นน้ำหมักชีวภาพ (ที่เราเรียกว่าน้ำเอ็นไซม์) ซึ่งใช้เวลาหมักขยายประมาณ 2 ปีขึ้นไป แต่กรณีจะนำไปดื่มกิน ควรผ่านการหมักขยายเป็นเวลา 6 ปีขึ้นไปจะให้คุณค่าของสารอาหารดีกว่า ตลอดจนแอลกอฮอล์ต่ำเพียงพอที่ไม่ก่อให้เกิดอันตราย\"[/b]
อยู่ด้วย ผมแนบFileมาด้วยครับ

ขอบคุณมากครับ

วัสลาม

ฮานาฟี

อาลี เสือสมิง

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2179
ตอบ : น้ำดื่มเอนไซม์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 08:54:14 am »
وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته
الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد

หากกระบวนการผลิตน้ำหมักชีวภาพที่เรียกว่า น้ำเอนไซน์ เป็นไปตามข้อมูลที่แนบไฟล์มาก็ถือว่า เครื่องดื่มชนิดนี้เป็นสิ่งที่สะอาดและใช้บริโภคได้ เพราะได้ผ่านขั้นตอนของการแปรสภาพ (อิสติหาละฮฺ) จากวัตถุเหลวที่มีส่วนประกอบจำพวกกรดและสารอาหารแล้วเกิดปฏิกิริยาทางเคมีเนื่องจากการหมักทำให้มีแอลกอฮอล์เกิดขึ้น ต่อมาก็แปรสภาพด้วยตัวของมันเองโดยไม่มีการใส่วัตถุเจือปนอื่นๆ เข้าไปกลายเป็นน้ำส้มสายชู (อัล-ค็อลฺ)


ซึ่งเมื่อแปรสภาพเป็นน้ำส้มสายชูแล้วก็มีสภาพกลับมาสะอาดและใช้บริโภคได้ ส่วนจะเกิดปฏิกิริยาต่อจากนั้นกลายเป็นยาธาตุตามระยะเวลาที่นานออกไปอีกก็ถือว่าไม่มีผลแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นสิ่งสะอาดแล้วตั้งแต่เมื่อกลายสภาพเป็นน้ำส้มสายชู


สำหรับอัตราส่วนของแอลกอฮอล์ที่ยังคงเหลืออยู่นั้นถือเป็นเรื่องปกติในกระบวนการทางปฏิกิริยาเคมีที่จะต้องมีเปอร์เซ็นต์ของแอลกอฮอล์เจือปนอยู่ในวัตถุเหลวที่ใช้กระบวนการหมัก ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์ต่ำ นักวิชาการถือว่าอนุโลมให้ เนื่องจากหลีกเลี่ยงได้ยาก (อุมูมุล-บัลวา) ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับน้ำผลไม้จำพวกองุ่นซึ่งมีเปอร์เซ็นต์ของแอลกอฮอล์มากที่สุดในจำพวกน้ำผลไม้ ซึ่งไม่ห้ามในการดื่มแต่อย่างใด

والله اعلم بالصواب