เรื่องตอวาฟรูกุ่นต่อครับแล้วจะตะฮััลลุลยังไงครับ  (อ่าน 6361 ครั้ง)

เตาฟิก

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าเช่นนั้นนางต้องอยู่ใสภาพครองอิห์รอมตลอดไปสิครับ  ไม่ว่าจะนานสักกี่ปีก็ตาม

แล้วสิ่งที่ห้ามในขณะครองอิห์รอมจะปฏิบัติได้ยังไงครับ

ขอบคุณอาจารย์อาลีมาก ๆครับ  ขอเอกองค์อัลลอฮ์ตอบแทนความดีแก่ท่านและครอบครัว

อาลี เสือสมิง

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2179
الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد


หากสตรีที่ทำหัจญ์นั้นได้ประกอบพิธีหัจญ์ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ทุกประการ ยกเว้นการเฏาะว๊าฟอิฟาเฎาะฮฺ (เฏาะว๊าฟรุกนฺ) โดยนางได้ขว้างเสาหินหน้าเดียว (ญุมเราะตุ้ล อะเกาะบะฮฺ) และขลิบผมของนางแล้วก็ถือไว้ได้กระทำ 2 ใน 3 ประการที่เป็นงานของการประกอบพิธีหัจญ์


(3 ประการนี้คือ การขว้างเสาหินหน้าเดียว การขลิบผม และการเฏาะว๊าฟพร้อมกับการสะอยฺ ในกรณีที่ยังไม่ได้ทำการสะอฺย์เอาไว้ก่อนภายหลังการเฏาะว๊าฟอัล-กุดูม ซึ่งถ้าหากนางสะอฺย์เอาไว้ก่อนแล้วโดยเหนียตเป็นการสะอฺย์รุกน์หัจญ์ภายหลังการเฏาะว๊าฟกุดูมก็จะเหลือเพียงการเฏาะว๊าฟอิฟาเฎาะฮฺเท่านั้นที่นางยังไม่ได้ทำ ปัญหาของนางก็จะง่ายขึ้นในเรื่องนี้)



เมื่อได้กระทำงานของการประกอบพิธีหัจญ์ 2 ใน 3 แล้ว คือขว้างเสาหินหน้าเดียวกับการขลิบผมก็ถือว่าผู้ประกอบพิธีหัจย์นั้นได้ปลดเปลื้องจากข้อห้ามในขณะครองอิหฺรอมหัจญ์แล้ว เรียกว่า “อัต-ตะหัลลุล อัล-เอาวฺวัล” หรือ “ตะหัลลุล อัศฆอรฺ” (ตะหัลลุลเล็ก)



แต่ถ้าหากว่านางยังไม่ได้สะอฺย์เอาไว้ก่อนภายหลังการเฏาะว๊าฟอัล-กุดูมก็ไม่เป็นอะไรในกรณีนี้เช่นกัน เพราะถือว่าการเฏาะว๊าฟกับการสะอฺย์เป็นงานเดียวกันคือนับเป็นหนึ่ง แต่ต้องสะอฺย์รุกน์ภายหลังการกลับมายังนครมักกะฮฺเพื่อทำการเฏาะว๊าฟอัล-อิฟาเฎาะฮฺที่ติดค้างอยู่ คือ ต้องสะอฺย์ภายหลังการเฏาะว๊าฟอัล-อิฟาเฎาะฮฺนั้นด้วย เพราะมิได้สะอฺย์แช่เอาไว้ภายหลังการเฏาะว๊าฟอัล-กุดูม  แต่ถ้าสะอฺย์แช่เอาไว้แล้วก็ไม่มีสุนนะฮฺให้สะอฺย์อีก มีเพียงการเฏาะว๊าฟเท่านั้นที่จำเป็น


ทีนี้เมื่อนางได้ตะหัลลุ้ลครั้งที่ 1 แล้วด้วยการปฏิบัติงานของพิธีหัจญ์ 2 ใน 3 ข้างต้น ทุกสิ่งที่เคยเป็นที่ต้องห้ามกระทำขณะอยู่ในระหว่างการครองอิหฺรอมก็เป็นที่อนุญาตให้กระทำได้ ยกเว้นเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ (ญิมาอฺ) การกระทำที่ไม่ถึงขั้นการมีเพศสัมพันธ์ แต่มีกำหนัด เช่น การกอดจูบ ลูบคลำ หรือการสำเร็จความใคร่ และการทำข้อตกลงนิกาห์


การที่ 3 ประการนี้เป็นที่ต้องห้ามอยู่สำหรับนางก็เนื่องจากนางยังไม่ได้เฏาะว๊าฟอิฟาเฎาะฮฺนั่นเอง กล่าวคือนางยังไม่ได้ประกอบงานของพิธีหัจญ์โดยครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะยังขาดการเฏาะว๊าฟอิฟาเฎาะฮฺอยู่อีกหนึ่งประการ


ดังนั้น ที่ว่านางยังคงอยู่ในสภาพของผู้ครองอิหฺรอม จึงหมายความว่ายังมีหุก่มทางศาสนาที่เกี่ยวกับข้อห้ามของผู้ครองอิหฺรอมผูกพันอยู่กับนางอยุ่จนกว่าจะได้ทำการตะหัลลุลครั้งที่สอง (ตะหัลลุล กุบรอ) ด้วยการเฏาะว๊าฟ อิฟาเฎาะเสียก่อน เมื่อใดก็ตามที่นางกลับไปยังนครมักกะฮฺ


ซึ่งในกรณีนี้ก็คือ จะรอให้ถึงช่วงทำอุมเราะฮฺที่จะมาถึงนี้ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงช่วงประกอบพิธีหัจญ์แต่อย่างใด เมื่อถึงช่วงอุมเราะฮฺก็ให้เดินทางไปพร้อมกับคณะ เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนของการทำอุมเราะฮฺก็หาเวลาไปเฏาะว๊าฟอิฟาเฎาะที่ติดค้างอยู่ที่มัสญิดอัล-หะรอม  ก็ถือว่าตะหัลลุลครั้งที่ 2 ไปโดยปริยาย


ปัญหาอยู่ที่ว่าในช่วงที่ก่อนจะขึ้นไปทำอุมเราะฮฺนั้นถ้าหากนางได้กระทำสิ่งที่มีข้อผูกพันห้ามเอาไว้ ซึ่งมีอยู่เพียง 2 เรื่องคือ การมีเพศสัมพันธ์กับการแต่งงาน ซึ่งประเด็นของการแต่งงานนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเศาะห์ในการทำข้อตกลงนิกาห์ไม่เกี่ยวกับพิธีหัจญ์ จึงเหลือเพียงเรื่องการมีเพศสัมพันธ์


ซึ่งถ้านางยังไม่มีสามีก็คงไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ แต่ถ้ามีสามีแล้วปรากฏว่ามีการกอดจูบลูบคลำโดยมีกำหนัดแต่ไม่ถึงขั้นการเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ยังอยู่เมืองไทยก่อนที่จะมีโอกาสไปทำอุมเราะฮฺแล้วอาศัยอาโกสในการเฏาะว๊าฟอิฟาเฎาะฮฺ ก็จำเป็นต้องเสียค่าปรับด้วยการเชือดแพะหรือแกะหนึ่งตัว หรือให้อาหารแก่คนจน 6 คน / ละครึ่งกันตัง หรือถือศีลอด 3 วัน โดยเลือกเอาว่าจะเสียค่าปรับข้อใด เมื่อกลับไปยังนครมักกะฮฺเพื่อทำอุมเราะฮฺหรือหัจญ์พ่วงกับการเฏาะว๊าฟอิฟาเฎาะฮฺเข้าไปด้วย


แต่ถ้าเป็นการมีเพศสัมพันธ์ด้วยการสอดใส่ (ญิมาอฺ) ในขณะที่อยู่เมืองไทยก็ต้องเสียค่าปรับด้วยการเชือดอูฐ 1 ตัว ถ้าไม่มีอูฐให้เชือดก็ให้ตีราคาเป็นเงิน (ตามราคาที่มักกะฮฺ) โดยดำเนินการเหมือนกรณีแรก แต่ถ้าไม่มีเงินตามที่ตีราคาอูฐนั้น ก็ให้กำหนดว่าเงินนั้นซื้ออาหารได้กี่ลิตร (มุดด์) แล้วก็ถือศีลอดตามจำนวนของแต่ละมุดด์นั้น 1 วันต่อ 1 มุดด์


ดังนั้นการที่นางยังไม่ได้เฏาะว๊าฟอิฟาเฎาะฮฺจึงเป็นเรื่องของการที่นางที่ยังมีข้อผูกพันอยู่กับหุก่มในเรื่องหัจญ์บางส่วนเท่านั้น มิได้หมายความว่านางเป็นผู้ครองอิหฺรอมเต็มรูปแบบ เพราะถ้านางขว้างเสาหินหน้าเดียวและขลิบผมแล้ว นางก็ตะหัลลุลเอาวฺวัลแล้ว เพียงแต่ยังมีข้อห้ามในเรื่องการเพศสัมพัน์เท่านั้น


ซึ่งถ้านางยังไม่มีสามีก็ไม่มีปัญหาใดๆ เลย ในช่วงที่รอโอกาสกลับไปยังนครมักกะฮฺเพื่อเฏาะว๊าฟอิฟาเฎาะฮฺ แต่จะมีปัญหามากหน่อยในกรณีที่นางมีสามีแล้ว เพราะอาจจะพลาดในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ได้ ซึ่งถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็มีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ต้องเสียค่าปรับ (ดัมม์) เพิ่มเข้ามาอีกกระทงหนึ่ง เมื่อมีโอกาสกลับไปยังนครมักกะฮฺเพื่อเฏาะว๊าฟอิฟาเฎาะฮฺ


สิ่งที่ต้องระวังในกรณีนี้ก็คือ  นักวิชาการมัซฮับอัช-ชาฟีอียฺถือว่าถ้าหากมีเพศสัมพันธ์เกิดขึ้นซ้ำก็ต้องมีฟิดยะฮฺ (ค่าปรับ) ด้วยการเชือดแกะ 1 ตัว ตามจำนวนครั้งที่มีการซ้ำนั้น นอกเหนือจากอูฐ 1 ตัวในครั้งแรกครับ!


(เก็บเนื้อหาจากกิตาบ อัล-อีฎ็อหฺ ฟี มะนาสิกิล หัจญ์ วัล-อุมเราะฮฺ ; อิมาม อัน-นะวาวียฺ และ อัล-ฟิกฮุล มันฮะญียฺ เล่มที่ 2 เรื่อง อัล-หัจญ์)

والله أعلم بالصواب