وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته
الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد
หากตามปกติของทุกเดือน หญิงคนนี้มีประจำเดือน 6 วัน ก็ให้ถือเอาจำนวน 6 วันเป็นเกณฑ์ในการกำหนดช่วงเวลาการมีรอบเดือนของนาง เมื่อมีรอบเดือนครบ 6 วันตามปกติแล้วก็ให้อาบน้ำยกหะดัษใหญ่และละหมาดได้ตามปกติ แต่ในกรณีที่ถามมาปรากกว่ามีเลือดประจำเดือนมาอีกในวันที่ 7 ซึ่งเป็นไปได้ว่านั่นคือเลือดประจำเดือนเพราะยังอยู่ในช่วง 6-7 วันตามปกติของการมีรอบเดือน และไม่ถือเป็นเลือดเสีย (อิสติหาเฏาะฮฺ) เพราะยังไม่เลยระยะเวลาการมีรอบเดือนมากสุด 15 วัน จึงให้น้ำหนักได้ว่าเลือดที่มีมาในวันที่ 7 ยังคงเป็นเลือดประจำเดือน ซึ่งทำให้นางยังคงมีสภาพของสตรีที่มีรอบเดือนอยู่ (คือยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เกลี้ยง)
การละหมาดศุบหิของนางจึงใช้ไม่ได้ แต่ไม่เกิดโทษและไม่ต้องเกาะฎอชดใช้ เพราะถือว่าในวันนั้นยังอยู่ในช่วงเวลาของการมีรอบเดือนอยู่ เหตุที่การละหมาดศุบหิของนางใช้ไม่ได้ แต่ไม่เกิดโทษเพราะเป็นการกระทำที่ไม่ได้มีเจตนาฝ่าฝืน หากแต่เป็นการกระทำบนพื้นฐานที่เข้าใจว่าหมดรอบเดือนแล้วตามปกติ
ในทำนองเดียวกันการร่วมหลับนอนของสามีกับนางก็ไม่มีโทษแต่อย่างใด เพราะมิได้กระทำบนพื้นฐานของการมีเจตนาจะฝ่าฝืน หากแต่กระทำไปบนความเข้าใจว่าเป็นช่วงเวลาที่อนุญาตให้มีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ
หลักฐานในเรื่องนี้คือนักวิชาการระบุว่า : และผู้ใดกระทำการลงไป (มีเพศสัมพันธ์) ในสภาพที่ไม่รู้ว่ามีเลือดประจำเดือนหรือไม่รู้ว่าเป็นที่ต้องห้าม หรือเผลอลืมไป หรือถูกบังคับก็ย่อมไม่มีบาปอันใดเหนือผู้นั้นและไม่จำเป็นต้องเสียค่าปรับ (กัฟฟาเราะฮฺ) ใดๆ เนื่องจากมีหะดีษของอิบนุ อับบาส (ร.ฎ.) ระบุว่า แท้จริงนบี (ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า
إنَّ اللهَ تَجَاوَزَعَنْ أُمَّتِىْ الْخَطأَوَالنِّسْيَا نَ وَمَا اسْتُكْرِهُوْاعَلَيْهِ
“แท้จริงอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงมิถือเอาเป็นความผิดแก่ประชาชาติของฉันซึ่งการผิดพลาด , การหลงลืม และสิ่งที่พวกเขาถูกบังคับขืนใจให้กระทำสิ่งนั้น”
(หะดีษ หะสัน รายงานโดย อิบนุ มาญะฮฺ และอัล-บัยฮะกียฺ)
(จากกิตาบ อัล-มัจญมูอฺ ชัรหุ้ลมุฮัซซับ ; อัน-นะวาวียฺ เล่มที่ 2 หน้า 390)
والله أعلم بالصواب