وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته
الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد
การสาบานต่อสิ่งอื่นนอกเหนือจากอัลลอฮฺ (ซ.บ.) เป็นสิ่งต้องห้าม (หะรอม) และถือเป็นการตั้งภาคีประเภทชิรฺก์ อัศฆ็อรฺ ซึ่งไม่ทำให้ผู้สาบานนั้นตกศาสนา อยู่ในหมวดเดียวกับการโอ้อวด (อัร-ริยาอฺ) สิ่งที่จะลบล้าง (กัฟฟาเราะฮฺ) ความผิดในกรณีการสาบานต่อสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ก็คือการกล่าวประโยค \"لاإله إلاالله\" ดังที่มีรายงานจากท่านอบู ฮุรอยเราะฮฺ (ร.ฎ.) ในเศาะฮีหฺ อัล-บุคอรียฺ และมุสลิม ระบุเอาไว้ (มุคตะศ็อรฺ มะ อาริจญ์ อัล-เกาะบู๊ล ; ชัยคิ หาฟิซฺ อิบนุ อะหฺมัด อ๊าลฺหุกมียฺ หน้า 141)
ส่วนการสาบานต่ออัล-กุรอานนั้นถือเป็นการสาบาน (ยะมีน) โดยเห็นพ้องของนักวิชาการสังกัดมาลิกียะฮฺ ชาฟิอียะฮฺ และหะนาบิละฮฺ ตลอดจนอัล-หะนะฟียะฮฺ ตามที่ชัยคฺ อัล-กะม้าล อิบนุ อัล-ฮุมาม และอัล-อัยนียฺให้น้ำหนักเอาไว้ เพราะผู้สาบานด้วยคัมภีร์อัลกุรอาน (อัล-มุศหัฟ) มุ่งหมายการสาบานนั้นต่อสิ่งที่ถูกเขียนไว้ในคัมภีร์อัล-กุรอาน คือ “อัล-กุรอาน” ซึ่งเป็นดำรัสของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ที่อยู่ระหว่างปกทั้งสองของคัมภีร์โดยอิจญ์มาอฺและอัล-กุรอานซึ่งเป็นดำรัสของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) คือส่วนหนึ่งจากศิฟาตของพระองค์ และการสาบานต่อศิฟาตของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) เป็นสิ่งที่อนุญาตให้กระทำได้ (อัล-ฟิกฮุลอิสลามียฺ ว่า อะดิลละตุฮุ ; ดร.วะฮฺบะฮฺ อัซซุหัยลียฺ เล่มที่ 3 หน้า 379)
ส่วนกรณีการสาบานในศาลหรือการเข้ารับตำแหน่งนั้น โดยมากมิใช่การสาบานต่อคัมภีร์อัล-กุรอานโดยตรง แต่เป็นการกล่าวคำสาบานต่ออัลลอฮฺด้วยประโยคอุกสิมุบิลลาฮฺ , วัลลอฮิ , ตัลลอฮิ เป็นต้น และใช้คัมภีร์อัล-กุรอานเป็นองค์ประกอบในการสาบาน ซึ่งมิใช่เป็นการสาบานโดยตรงกับคัมภีร์อัล-กุรอาน (อัล-มุศหัฟ) จึงไม่มีข้อห้ามและไม่ถือเป็นชิรก์แต่อย่างใด
والله اعلم بالصواب