وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته
الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد
การขอดุอาอฺหลังจากเสร็จการละหมาดฟัรฎูแล้วนั้นควรกระทำภายหลังการกล่าวถ้อยคำซิกรุลลอฮฺ (วิริด) ที่มีรายงานมาจากท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) เช่น การกล่าวอิสติฆฺฟ๊ารฺ การกล่าว อัลลอฮุมม่า อันตัสสลามฯ การกล่าว ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ วะหฺดะฮู ลาชะรีกะละฮฺฯ การกล่าว สุบหานัลลอฮฺ , อัล-หัมดุลิลลาฮฺ , อัลลอฮุอักบัร อย่างละ 33 ครั้ง , การอ่าน อายะฮฺ อัล-กุรสียฺ และการอ่านอัล-มุเอาวฺวิซะตัยนฺ เป็นต้น
เมื่อกล่าววิริดหรือถ้อยคำซิกรุลลอฮฺดังกล่าวแล้ว ก็ให้กล่าวเศาะละหวาตแก่ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) อิมาม อัศ-ศ็อนอานียฺ (ร.ฮ.) กล่าวว่า “ดังนั้นการขอดุอาอฺภายหลังการกล่าวถ้อยคำซิกรุลลอฮฺถือเป็นสุนนะฮฺ และการกล่าวเศาะละหวาตแก่ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ก่อนหน้าการขอดุอาอฺก็เป็น สุนนะฮฺเช่นกัน...” (สุบุลุสสลาม ชัรหุ บุลูฆิลฺมะร็อมฺ 1/336)
ส่วนการขอดุอาอฺนั้นก็ให้เป็นไปตามความประสงค์ของผู้ขอ แต่ที่ดีที่สุดก็คือบรรดาสำนวนการดุอาอฺที่มีรายงานมาจากท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ซึ่งมีเป็นจำนวนมากทั้งที่ระบุว่าเป็นดุอาอฺหลังละหมาดโดยตรง หรือเป็นดุอาอฺทั่วไป กรณีนี้แหละที่เป็นเหตุให้อิมามนำละหมาดบางคนขอดุอาอฺยาวเพราะท่องจำเอาไว้มาก และบางคนขอดุอาอฺสั้นเพราะท่องจำเอาไว้น้อย หรือไม่ก็เป็นการคำนึงถึงความเหมาะสมเพราะบางทีอิมามก็มีธุระ หรือไม่ก็เกรงว่าจะเป็นการสร้างความลำบากให้แก่มะอฺมูม ถ้าหากว่าขอเสียยืดยาว จึงเป็นเรื่องของสถานการณ์และความเหมาะสมครับ
والله ولي التوفيق