وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته
الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد
เศาะหาบียะฮฺ (สาวิกา) ที่มีชื่อว่า ฟาริอะฮฺ (فَارِعَة) หรือ ฟะรีอะฮฺ (فَرِيْعَة)นั้นมีหลายท่าน จึงไม่ทราบว่าต้องการเรื่องราวของเศาะหาบียะฮฺท่านใด เศาะหาบียะฮฺ (สาวิกา) ของท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ที่มีชื่อว่า ฟาริอะฮฺ นั้นได้แก่
ฟาริอะฮฺ บินตุ อบีอุมามะฮฺ อัสอัดฺ อิบนิ ซุรอเราะฮฺ อัล-อันศอรียะฮฺ บ้างก็ว่าพระนางชื่อว่า ฟะรีอะฮฺ ท่านอบูอุมัรกล่าวว่า : อบูอุมามะฮฺได้สั่งเสียให้ท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ช่วยดูแลบุตรสาวของตน 3 คนคือ ฟาริอะฮฺ หะบีบะฮฺ และกับชะฮฺ
ท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้จัดการสมรสให้แก่ฟะรีอะฮฺกับนะบีฏ อิบนุ ญาบิรฺ จากตระกูลมาลิก อิบนุ อัน-นัจญ๊าร บุตรีคนแรกของนะบีฏกับฟะรีอะฮฺ มีชื่อว่า ซัยหนับ เป็นภรรยาของท่านอะนัส อิบนุ มาลิก (ร.ฎ.) และมีบุตรชายคนหนึ่งของนะบีฏกับฟะรีอะฮฺ มีชื่อว่า อับดุลมะลิก ซึ่งท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) เป็นผู้ตั้งชื่อให้และขอดุอาอฺให้ ท่านหญิงฟาริอะฮฺ (ร.ฎ.) เป็นสตรีผู้หนึ่งที่เคยเข้าร่วมในการให้สัตยาบัน (บัยอะฮฺ) กับท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)
ฟาริอะฮฺ บินตุ ษาบิตฺ อิบนิ อัล-มุนซิรฺ อิบนิ หะร็อม อัล-อัศอรียะฮฺ มาจากตระกูลอัน-นาจญ๊าร เป็นน้องสาวของท่านหัสสาน อิบนุ ษาบิตฺ (ร.ฎ.) นักกวีของท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)
ฟาริอะฮฺ บินตุ ซุรอเราะฮฺ อิบนิ อะดียฺ อิบนิ หะร็อม อัล-อันศอรียะฮฺ จากตระกูลมาลิก อิบนุ อัน-นัจญ๊าร เป็นพี่น้องแท้ๆ กับท่านอบูอุมามะฮฺ อัสอัด อิบนุ ซุรอเราะฮฺ (ร.ฎ.) พระนางสมรสกับท่านก็อยสฺ อิบนุ ฟะฮฺด์ อิบนิ ก็อยฺส์ อิบนุ ษะอฺละบะฮฺ เข้ารับอิสลามและเข้าร่วมในการสัตยาบันกับท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)
ฟาริอะฮฺ บินตุ อบีสุฟยาน อิบนิ หัรฺบ์ อิบนิ อุมัยยะฮฺ จากตระกูลอุมะวียะฮฺ เป็นภรรยาของท่านอับดุลลอฮฺ อิบนุ ญะหฺชิน และร่วมอพยพไปยังอัล-หะบะชะฮฺ (อบิสซีเนีย) กับครอบครัวของสามี
อัล-ฟาริอะฮฺ บินตุ อบี อัศ-ศ็อลฺต์ เป็นน้องสาวของอุมัยยะฮฺ อิบนุ อบี อัศ-ศ็อลฺต์ นักกวีในยุคก่อนอิสลาม ท่านอบูอุมัร กล่าวว่า : อัล-ฟาริอะฮฺ ได้มาหาท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ภายหลังการพิชิตเมืองอัฏ-ฏออิฟฺ พระนางเป็นผู้มีสติปัญญา รักนวลสงวนตัว และมีรูปโฉมงดงาม ท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) เคยถามพระนางว่าได้ท่องจำบทกวีของอุมัยยะฮฺผู้เป็นพี่ชายไว้บ้างหรือไม่ พระนางจึงร่ายบทกวีของอุมัยยะฮฺให้ท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้รับฟัง
ฟาริอะฮฺ บินตุ อับดิรเราะหฺมาน อัล-ค็อษฺอะมียะฮฺ
ฟาริอะฮฺ บินตุ อุตบะฮฺ อิบนิ เราะบีอะฮฺ อิบนิ อับดิชัมส์ อัล-อับชะมียะฮฺ เป็นพี่น้องกับฮินด์และเป็นน้าสาวของท่านอุมาวียะฮฺ อิบนุ อบีสุฟยาน (ร.ฎ.)
ฟาริอะฮฺ บินตุ มาลิก อิบนิ สินานฺ อัล-คุดรียะฮฺ (อัล-อิศอบะฮฺ ฟี ตัมยีซฺ อัศ-เศาะหาบะฮฺ ; อัล-หาฟิซฺ อิบนุ หะญัร เล่มที่ 4 ภาคที่ 8 หน้า 154-156)
ส่วนเศาะหาบียะฮฺ (สาวิกา) ที่มีชื่อว่า ฟะริอะฮฺ นั้นก็มีอยู่หลายท่าน เช่น
- ฟะรีอะฮฺ บินตุ อัล-หุบาบ อิบนิ รอฟิอฺ
- ฟะรีอะฮฺ บินตุ คอลิด อิบนิ หะบีชฺ
- ฟะรีอะฮฺ บินตุ อัมร์ และ ฟะรีอะฮฺ บินตุ ก็อยฺส์ อัล-อันศอรียะฮฺ เป็นต้น (อ้างแล้ว หน้า 166)
คำว่า “ฟารีอะฮฺ” แปลว่า สิ่งที่สูงเด่นและสวยงาม เช่น ยอดเขาสูง หรือสิ่งที่ยาว (สูง) เช่น คนที่สูงชะลูด เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีความหมาย ผู้ที่ลง เช่น ลงในหุบเขาหรือลงสู่ทางลาดชัน , ผู้ที่ท่องเที่ยวไปในดินแดนต่างๆ ผู้ที่กระตุกสายตะพายหรือผู้ที่ทำให้ม้าละพยศ และผู้ที่ประนีประนอมระหว่างผู้คน เป็นต้น ส่วนที่ว่าแปลว่า ว่างเปล่า นั่นคือคำว่า ฟาริเฆาะฮฺ(فَارِغَةٌ) ครับ เป็นคนละคำกัน
ส่วนจะเติมคำว่า นู๊ร (نور) นำหน้าคำว่า ฟาริอะฮฺ เป็น นู๊รฟาริอะฮฺ (نُورُفَارِعَةَ)ก็ย่อมได้ครับ แต่ควรจะเติม (أل)ที่คำว่า ฟาริอะฮฺ เป็น นูรุ้ลฟาริอะฮฺ (نُوْرُالفَارِعَةِ)โดยมุ่งหมายความว่า รัศมีแห่งยอดเขาสูง ครับ!
والله ولي التو فيق
ต้องการทราบประวัติซอฮาบียะห์ท่านนึงครับ (อ่าน 9106 ครั้ง)