เงิน SML ไม่ใช่ เงินมุสลิม  (อ่าน 3064 ครั้ง)

Dawud

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
เงิน SML ไม่ใช่ เงินมุสลิม
« เมื่อ: มิถุนายน 09, 2013, 10:59:34 pm »
 salam ครับผม อาจารย์

ผมขอ ขออนุญาต รบกวน อาจารย์ อาลี ครับ

พอดี มัสยิด บ้านผม ได้รับ ความอนุเคราะห์ จาก มุสลิม ท่านหนึ่ง

ได้ บริจาคเงิน ตบแต่ง ซ่อมแซม มัสยิด จำนวนหนึ่ง จนเสร็จแล้ว

พอดี ชุดเครื่องเสียง ลำโพง มัสยิด เก่ามาก ก็ ถูไถ ใช้ มาเรื่อย

จังหวะ นี้แหละ ที่ผมขอรบกวน สอบถาม อาจารย์ 

เงิน SML ซึ่งทางหมู่บ้านผม จะได้งบประมาณ 400000 บาท

หมู่บ้าน ผม แบ่งเป็น สองกลุ่ม คือ คนมุสลิม และ คนพุธ แต่อยู่รวมกันครับ

หัวหน้าชุมชนุ ได้คุยกับผม เงิน จะถูกแบ่ง ออกเป็น 4 ส่วน

ส่วนหนึ่ง คือมุสลิม 100000 เกี่ยวกับเครื่องเสียง มัสยิด พร้อมทำห้องเก็บเครื่องเสียง

ส่วนสอง คือคนพุธ 100000 แล้วแต่เขา

ส่วนสาม ทำประโยชน์ สาธารณะ สำหรับ คนมุสลิม

ส่วนสี่ ทำประโยชน์ สาธรารณะ สำหรับ คนพุธ

คือเงินส่วนที่เราจะได้ ทำเครื่องเสียง ต้องออกไปโหวด

อยากถามอาจารย์ ว่า เงิน SML นี้เราสามารถ นำมาใช้

ได้ แบบไร้ปัญหา เกี่ยวกับเรื่อง ศาสนา ของเราหรือเปล่าครับ

เพราะมี บุคคล กลุ่มหนึ่ง ตีความ ว่าไม่ใช่เงิน ของมุสลิม ห้าม

นำมาเกี่ยวงข้อง กับมัสยิด มัน ขนาดนั้นเลยหรือครับ .........

สุดท้าย ขอ เอกองค์ อัลเลาะห์ ได้โปรด ให้ อาจารย์ อาลี  เสือสมิง

แข็งแรง สุขภาพดี ครับ  salam

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 15, 2013, 11:41:22 am โดย Dawud »

อาลี เสือสมิง

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2179
Re: เงิน SML ไม่ใช่ เงินมุสลิม
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 09, 2013, 10:36:27 am »
وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته
الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد

เอาเป็นว่าเงิน SML เป็นเงินที่มาจากงบประมาณของรัฐบาลก็แล้วกัน พอเป็นเงินของรัฐแล้วมุสลิมสามารถนำมาใช้ได้หรือไม่ ชัยคฺ อะฎียะฮฺ ศ็อกร์ (ร.ฮ.) ตอบในฟัตวาของท่านว่า “ใช่ว่าทรัพย์สินของรัฐทั้งหมดมาจากแหล่ง (งบประมาณ) ที่ต้องห้ามไปเสียทั้งหมด และเมื่อสิ่งที่หะลาลปะปนกับสิ่งที่หะรอม และเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากในการแยกสิ่งที่หะลาลออกจากสิ่งที่หะรอม ก็ไม่มีข้อห้ามในการเอาทรัพย์สินของรัฐนั้นมาใช้ โดยหวังว่าสิ่งที่ถูกนำเอามาใช้นั้นมาจากทรัพย์ที่หะลาล


และแท้จริงท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ก็เคยเอาภาษีญิซฺยะฮฺจากพวกยิว ทั้งๆ ที่ปรากฏว่าทรัพย์สินของพวกยิวปะปนกับสิ่งที่หะรอมจากดอกเบี้ยและการค้าขายในสิ่งต้องห้าม... และเพราะอะไรเราจะต้องมาตั้งข้อสงสัยในทรัพย์สินของรัฐ ณ ตรงนี้ ทั้งๆ ที่เราก็รับทรัพย์สินนั้นในค่าจ้างและเงินเดือนของเรา และเราก็เอาประโยชน์ด้วยทรัพย์สินของรัฐนั้นในบรรดามัสญิดและสาธารณูปโภคทั่วไปที่รัฐสร้างและรับผิดชอบดูแลตลอดจนเรื่องอื่นๆ จากทุกสิ่งที่รัฐดำเนินการจากงบประมาณกลางซึ่งในงบประมารกลางนั้นมีบรรดาภาษี การบริจาค การกู้ยืม การซื้อขาย และการส่งออกตลอดจนสิ่งอื่นถูกเทลงไปในงบประมาณกลางนั้น” (อะหฺสะนุลกะลาม ฟิล ฟัตวา วัล-อะหฺกาม ; ภาคที่ 7 เล่มที่ 2 หน้า 260)



หากมัสญิดไม่สามารถรับเงิน SML มาใช้ในเรื่องเครื่องเสียงและอื่นๆ ด้วยข้ออ้างที่ว่ามิใช่เงินของมุสลิมแต่เป็นเงินของรัฐแล้วมัสญิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ฯลฯ ที่ถูกสร้างด้วยงบประมาณของรัฐทั้งสิ้นจะว่าอย่างไร คงต้องทุบทิ้งกันหมดหรือไม่ก็ห้ามมุสลิมใช้มัสญิดเหล่านั้นประกอบศาสนกิจแล้วจะว่าอย่างไร? อิมาม คอเต็บ บิล้าล ก็มีเงินอุดหนุนจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นเงินของรัฐ ครูสอนศาสนาในโรงเรียนตาดีกา 3 จังหวัดภาคใต้ก็มีเงินอุดหนุนจาก ศอ.บต. ซึ่งเป็นเงินของรัฐมิใช่เงินของมุสลิมโดยตรง พวกเขาจะทำอย่างไร? หากอ้างเช่นนั้น เพราะการสอนศาสนา


ฟัรฎูอีนเป็นเรื่องทางศาสนาโดยตรง ชัดยิ่งกว่าการนำมาใช้ในเรื่องมัสญิดเสียอีก ก็ขอให้พูดคุยกันในหมู่ของสัปปุรุษและคณะกรรมการอิสลามประจำมัสญิดในเรื่องนี้ มีมติว่ารับก็จบ หากมีมติไม่รับหรืออย่างไรก็ว่ากันไปเถิด ติดอยู่เสียตรงที่ว่าคนที่เคร่งครัดในเรื่องนี้ต้องเคร่งครัดในเรื่องอื่นๆ ด้วย และที่ดีก็ควรหางบประมาณจากคนเหล่านั้นแหล่ะ เมื่อไม่รับก็ต้องช่วยมัสญิดด้วยมิใช่ค้านเพียงอย่างเดียว

والله ولي التوفيق