ละหมาดชด-กอฎอ(ต่อ)  (อ่าน 4235 ครั้ง)

ซาฟิก สารี

  • บุคคลทั่วไป
ละหมาดชด-กอฎอ(ต่อ)
« เมื่อ: กันยายน 22, 2014, 09:59:51 am »
อัสสลามมูอลัยกุมวะเราะฮ์มะตุ้ลลอฮฺ
ขอขอบคุณท่านอาจารย์อาลี เสือสมิงมากๆครับสำหรับคำตอบในหัวข้อ "ละหมาดชด(กอฎอ" เมื่อครั้งที่แล้ว ผมจะแสดงความคิดเห็นต่อน่ะครับ เพียงแต่ไม่ทราบว่าต้องพิมพ์ต่ออย่างไร เลยตั้งหัวข้อใหม่

คำตอบของอาจารย์ละเอียดมากๆครับ ทีนี้เรื่องที่ว่าบุคคลคนนั้นต้องละหมาดชดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเขารู้มากน้อยเพียงใด ฯลฯ ผมจะขอสรุปคร่าวๆเท่าที่พอจำได้นะครับ
1. เป็นคนละหมาด ขยันขันแข็ง โพกผ้าเซอราบ่านไปละหมาดเพราะได้ผลบุญเยอะ(จะบอกว่าเขาตั้งใจมากครับ) ไปละหมาดมัสยิดแทบจะทุกเวลา ขาดก็เพียงซุบฮีบ้าง
2. ยามที่เขาละหมาด เขาไม่สามารถแยกแยะได้ทุกขั้นตอนว่าการกระทำไหนเป็นฟัรฎูหรือสุนนะห์ ยกตัวอย่างความคิดที่เขาเข้าใจว่า "ต้องทำ ไม่ทำไม่ได้" เช่น ละหมาดซุบฮีก็ต้องอ่านกูนูต, ขาดตะฮียัตแรกก็ไม่ได้, (ทั้งๆที่สองสิ่งนี้จงใจจะขาดก็ได้ แต่ต้องทำการซูญูดซะห์วี)
3. การอ่านซูเราะห์อัลฟาติฮะห์ ก็อ่านได้ แต่แยกแยะไม่ออกว่าอันไหนต้องออกเสียงสั้น เสียงยาว ไร้ความรู้ในการเรียนกีรออาตี (สรุปว่าบางครั้งที่ที่ควรอ่านยาว ก็อ่านสั้น, ที่ๆควรอ่านสั้นก็ยาว เพราะไม่รู้การอ่านที่ถูกต้อง แต่สามารถอ่านกุรอานได้ครับ)
4. อันนี้บ่อยเลย... เวลาที่เขาละหมาดฟัรฎูและกำลังก้มลงสุญูด, บางครั้งนิ้วเท้าทั้ง 10 นิ้ว(2 ข้าง) ไม่มีนิ้วใดนิ้วหนึ่งเลยประกบติดชิดแนบพื้น (เพราะรู้สึกว่าทำแบบนั้นมันสบาย) แต่บางครั้งเขาก็ติดชิดแนบพื้น แต่จำไม่ได้ว่าช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา มีครั้งไหนทำบ้าง ไม่ทำบ้าง, แต่ก็คิดว่ามันต้องมีบ้างบางเวลาที่เขาละหมาดถูกขั้นตอนหมด
5. เวลาเขาละหมาดฟัรฎู เขาสวมใส่เสื้อบ้าน, ยามที่เขาก้มรุกัวะหรือสุญูด เสื้อที่สั้นนั้นถูกดึงขึ้น(เพราะความตึงจากการก้มหลัง) ทำให้เห็นเอารัตของเขา (ซึ่งการละหมาดที่ถือว่าใช้ได้ จะต้องไม่เห็นเนื้อหนังบริเวณสะดือต่ำลงมาจนถึงหัวเข่า, ถูกต้องไหมครับ) เขาก็รู้ว่ายามที่เขากำลังสุญูด มันน่าจะเห็นแผ่นหลังตรงนั้น แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงแต่แอบสงสัยบ้างว่าละหมาดแบบนี้ใช้ได้ไหม แต่ก็ไม่ได้ไปถามผู้รู้ (และทำแบบนี้มาเป็น 10 ปี, แต่มั่นใจว่า "ไม่บ่อย" เพราะส่วนใหญ่จะใส่ชุดโต๊บไปละหมาด)

คร่าวๆประมาณนี้แหละครับ สิ่งที่ทำให้เขาคิดว่าเขาต้องละหมาดชดก็เพราะด้วยการกระทำที่รู้บ้าง(แต่ก็รู้ไม่จริง มันน่าจะเป็นความเข้าใจด้วยตัวเองมากกว่าว่า "สิ่งนี้จะต้องทำ" ทั้งๆที่ไม่ต้องก็ได้เพราะเป็นเพียงสุนนะห์) ไม่รู้บ้าง, และเขาก็จำได้แม่นว่าพ่อของเขาบอกตลอดว่า "ว่างๆก็ไปศึกษาศาสนาบ้าง" แต่เขาก็ไม่ไป เพราะไม่ชอบฟังบรรยาย แต่ขยันละหมาดญุมอะห์มาก
ณ วันนี้ ก็ได้ตั้งใจฟังบรรยายจนสามารถแยกแยะออกได้ว่าอะไรคือสุนนะห์ อะไรคือฟัรฎู, อ่านซูเราะห์อัลฟาติฮะ ก็สามารถออกเสียงสั้นยาวตามที่ที่ถูกต้องได้แล้ว (แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม), และเขาคิดว่าแม้ในเวลานี้เขากระทำสิ่งใดผิดในการละหมาด เขาก็คิดว่าอัลลอฮฺคงไม่ถือโทษโกรธเขา เพราะเขากำลังตั้งใจศึกษาอยู่ ผิดก็ไม่ต้องละหมาดชด (ละหมาดกรณีลืมและเผลอหลับ)

ตรงนี้แหละครับ, ทำให้เขาเห็นความแตกต่างว่า "วันนี้ผิด ก็ไม่ต้องละหมาดชด" แต่เมื่อก่อนนั้น "ผิด ต้องละหมาดชด เพราะไม่ได้ไปฟังบรรยายเลย"
อาจารย์อาลี พอจะเสริมอะไรให้อีกไหมครับ ว่าบุคคลนี้, กระทำการละหมาดโดยมีพื้นฐานความรู้เพียงเท่านี้ บ้างก็เกิดจากความเข้าใจเองว่าน่าจะได้ และเขาก็ได้กระทำเช่นนี้มาเป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว.. ถ้าต้องละหมาดชดจริงๆ พอได้สลบเลย
แต่เพราะความกลัวที่มีต่ออัลลอฮฺ เขาจึงเลือกที่จะละหมาดชดจนกว่าจะสิ้นชีพ ตีคร่าวๆว่าจะละหมาดสัก 10 ปีกว่าๆ (อันที่จริงมันมากกว่านั้นครับ) แต่ก็จะรู้สึกดีมาก ถ้าไม่ต้องละหมาดชดมโหฬารขนาดนั้นครับ

ขอบคุณครับ
วัสสลามมูอลัยกุม