وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته
เรื่องการปิดหน้า (นิก็อบ) ของมุสลิมะฮฺนั้น ผมได้เคยตอบเรื่องนี้ไปแล้ว ลองค้นดูในคอลัมน์นี้ดูครับ เป็นคำถามเก่า ส่วนคำกล่าวที่ว่า “อิสลามไม่ได้มีคำสั่งให้ปิดหน้า” นั้น หากจะว่าไปแล้วก็จริงส่วนหนึ่ง เพราะอิสลามไม่ได้มีคำสั่งให้ปิดหน้า แต่อิสลามมีคำสั่งให้ปกปิดเอาวฺเราะฮฺ ประเด็นจึงอยู่ที่ว่า ใบหน้าของสตรีเป็นเอาวฺเราะฮฺหรือไม่ ตรงนี้แหล่ะที่นักวิชาการวิเคราะห์ต่างกัน
และที่ว่าการปิดหน้าเป็นประเพณีของผู้หญิงอาหรับ เพื่อป้องกันไม่ให้ทรายเข้าจมูก ก็ต้องถามว่า ประเพณีคืออะไร? คือสิ่งที่นิยมถือปฏิบัติ ปฏิบัติสืบๆ กันมาจนเป็นแบบแผน ขนบธรรมเนียมหรือจารีตประเพณี หากอธิบายว่าการปิดหน้าเป็นประเพณีของชาวอาหรับที่มาจากหลักบัญญัติของศาสนาก็พอฟังได้ เพราะวิถีชีวิตที่ประพฤติปฏิบัติกันสำหรับชาวอาหรับและมุสลิมทั่วไปก็จะมีหลักคำสอนของศาสนาเป็นกรอบและครรลองโดยปกติอยู่แล้ว เพียงแต่เรื่องการปิดหน้านี้มิใช่เป็นเพียงประเพณีปฏิบัติเฉยๆ หากแต่มีหลักคิดทางศาสนาที่นักวิชาการอธิบายเอาไว้ในเรื่องของการปกปิดเอาวฺเราะฮฺด้วย
ส่วนที่ให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันทรายเข้าจมูกนั้นก็คงไม่จริงเสียแล้ว เพราะทรายไม่ใช่ปัญหาสำหรับชาวอาหรับโดยส่วนใหญ่ในปัจจุบัน เพราะชาวอาหรับกลายเป็นสังคมเมือง อยู่ในเมืองและอาศัยอยู่ในอาคารบ้านเรือน ไม่ได้อยู่แบบเบดูอินที่อาศัยอยู่ในกระโจมกลางทะเลทรายเช่นในอดีต เวลามีพายุทรายพัดเข้าเมือง ชาวอาหรับก็จะเก็บตัวอยู่ภายในบ้านเรือน คนที่อยู่ข้างนอกในเวลานั้นทั้งผู้หญิงผู้ชายถ้ามีผ้าก็ปิดหน้ากันทั้งหมด ถ้าไม่มีผ้าปิดหน้าก็จะหลบเข้าในอาคารจนกว่าพายุทรายจะผ่านไป และพายุทรายนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำ ต่างจากฝนตกในบ้านเรา แล้วจะว่าการปิดหน้าเป็นประเพณีที่ป้องกันทรายเข้าจมูกได้อย่าง?
والله أعلم بالصواب