ฮุกุมของศาสนาชี้ชัดอย่างไรคะ ? (เชือดวัวแล้วพบว่ามีลูกวัวตายอยู่ในท้องแม่)  (อ่าน 6520 ครั้ง)

Ramanah

  • บุคคลทั่วไป
 salam  รบกวนสอบถามอาจาร์ยตามข้อความดังนี้นะคะ  คือ เราเชือดวัวแล้วแต่มีลูกวัวอยู่ในท้อง อยากทราบว่า ลูกวัวในท้อง เราสามารถนำมาปรุงอาหารได้มั๊ย? หรือสามารถขายได้มั๊ย? หรือให้คนอื่นได้มั๊ย? รบกวนอาจารย์ช่วยตอบให่ทีนะค๊าา ญะซากิ้ลละห์มากๆคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 18, 2015, 03:36:09 am โดย อาลี เสือสมิง »

อาลี เสือสมิง

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2179
وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته
الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد

ลูกสัตว์ (อัล-ญะนีน) ในท้องของแม่สัตว์ที่ถูกเชือดจะมี 3 สภาพ

1) มันออกจากท้องแม่ (ด้วยการผ่าท้อง เป็นต้น) ภายหลังเชือดแม่สัตว์นั้นแล้ว โดยลูกสัตว์มีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน (หะยาฮ์ มุสตะกิรเราะฮ์) กรณีนี้จะต้องเชือดลูกสัตว์นั้นต่างหาก ถึงจะกินลูกสัตว์นั้นได้ (กรณีอยากจะกินลูกสัตว์) ทั้งนี้โดยการเห็นพ้องของนักวิชาการ เพราะการมีชีวิตของลูกสัตว์เป็นการมีชีวิตที่เป็นเอกเทศ ไม่เกี่ยวข้องกับแม่สัตว์ที่ถูกเชือด


2) มันออกจากท้องแม่ (ด้วยการผ่าท้อง เป็นต้น) ภายหลังเชือดแม่สัตว์นั้นแล้วโดยลูกสัตว์ยังมีชีวิตอยู่แต่มันอยู่ในสภาพใกล้จะตายหรือดิ้นเหมือนสัตว์ที่ถูกเชือด (หะเราะกะฮ์ อัล-มัซบูห์) และไม่สามารถเชือดมันในขณะนั้นได้จนมันตายไปในที่สุด


3) มันออกจากท้องแม่ในสภาพที่ตายแล้ว ภายหลังการเชือดแม่สัตว์แล้ว


สภาพที่ 1 ไม่มีข้อขัดแย้งในหมู่นักวิชาการว่าจำเป็นต้องเชือดลูกสัตว์นั้น หากจะกินเนื้อของลูกสัตว์นั้น

ส่วนสภาพที่ 2 และที่ 3 นั้น นักวิชาการมีความเห็นต่างกันเป็น 3 ทัศนะ คือ

1) ถือว่าเชือดลูกสัตว์ในท้องเกิดขึ้นแล้วด้วยการเชือดแม่ของมัน กล่าวคือเมื่อเชือดแม่ของสัตว์นั้นแล้ว ก็ผ่าท้องแล้วพบว่ามีลูกสัตว์อยู่ในท้องแม่ โดยลูกสัตว์นั้นตายแล้ว หรือใกล้จะตายด้วยการดิ้นตามอาการของสัตว์ที่ถูกเชือดแล้วมันก็ตายโดยไม่ทันเชือดมัน ก็ถือว่าลูกสัตว์นั้นเป็นที่อนุมัติในการกินเนื้อของมันได้ เพราะได้เชือดแม่ของมันแล้ว


ทั้งนี้ไม่ว่าลูกสัตว์นั้นจะมีขนขึ้นแล้วหรือไม่ก็ตาม นี่เป็นทัศนะของนักวิชการสังกัดมัซฮับอัช-ชาฟิอีย์ และอัล-หัมบะลีย์ ตลอดจนเป็นทัศนะของอิมามมุฮัมมัด และอัลกอฎีย์ อบูยูสุฟจากฝ่ายอัล- หะนะฟีย์ โดยอาศัยหลักฐานจากอัล-หะดีษที่ว่า

(ذَكَاتُهُ ذكاةُأُمِّه)

“การเชือดลูกสัตว์ในท้องแม่คือการเชือดแม่ของมัน” (อะห์มัด , อัต-ติรมีซีย์ และอิบนุมาญะฮ์)


และสายรายงานที่ระบุว่า “พวกเรากล่าวว่า โอ้ ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ พวกเราเชือดอูฐและพวกเราเชือดวัว แพะและแกะ (ปรากฏว่า) ในท้องของมันมีลูก พวกเราจะโยนลูกสัตว์ในท้องนั้นทิ้งหรือว่าเราจะกินมัน? ท่านศาสนทูต (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) กล่าวว่า : พวกท่านจงกินมัน หากพวกท่านประสงค์ เพราะแท้จริงการเชือดลูกสัตว์นั้นคือการเชือดแม่ของมัน” (อะห์มัด และอบูดาวูด)



2) การเชือดลูกสัตว์ในท้องคือการเชือดแม่ของมัน มีข้อแม้ว่า เมื่อลูกสัตว์นั้นมีขนขึ้นและมีรูปร่างที่สมบูรณ์แล้วเท่านั้น นี่เป็นทัศนะของฝ่ายอัล-มาลิกีย์โดยอาศัยหลักฐานจาก หะดีษที่ว่า

(إذاأَشْمَرَالجَنِيْنُ فَذَكَاتُه ذكاةُأُمِّه)

“เมื่อลูกสัตว์ในท้องมีขนขึ้นแล้ว การเชือดมันก็คือการเชือดแม่ของมัน” แต่หะดีษบทนี้เป็น หะดีษเมาว์กูฟที่เป็นคำพูดของอิบนุ อุมัร (ร.ฎ.)



3) เมื่อลูกสัตว์ในท้องแม่ที่ถูกเชือดออกมาในสภาพที่ตายแล้ว ถือว่ากินไม่ได้ และถือเป็นซากสัตว์ (มัยตะฮ์) และตีความหะดีษของฝ่ายแรกว่า การเชือดลูกสัตว์ในท้องก็เหมือนกับการเชือดแม่ของมัน หมายถึงให้พวกท่านเชือดลูกสัตว์นั้นเหมือนอย่างที่พวกท่านเชือดแม่ของมัน นี่เป็นทัศนะของฝ่ายอัล-หะนะฟีย์



สำหรับทัศนะที่มีน้ำหนักในเรื่องนี้ก็คือทัศนะของนักวิชาการฝ่ายแรกซึ่งเป็นทัศนะของปวงปราชญ์ (ญูมฮูร อัล-อุละมาอ์) เพราะมีหลักฐานที่แข็งแรงกว่า 2 ทัศนะหลัง (สรุปความจากอัล-อิฏอิมะฮ์ วัซ-ซะบาอิห์ ฟิกฟิกฮิลอิสลามีย์ ; ดร.อบูสะรีอ์ มุฮัมมัด อับดุลฮาดีย์ หน้า 245-249)



ดังนั้น เมื่อเราเชือดวัวแล้ว ก็พบว่ามีลูกวัวตายอยู่ในท้องแม่ ก็ถือว่าอนุญาตให้กินเนื้อของลูกวัวนั้นได้ เพราะการเชือดแม่ของลูกวัวเป็นเหตุที่ทำให้ลูกวัวในท้องนั้นถูกเชือดไปด้วย แต่ถ้าเราจะเชือดมันทั้งๆ ที่มันตายในท้องแม่แล้ว ก็สามารถกระทำได้เพราะอิมามอะห์มัด (ร.ฮ.) ถือว่าการเชือดลูกสัตว์ที่ตายในท้องแม่ที่ถูกเชือดนั้นเป็นเรื่องที่ส่งเสริม (มุสตะหับ) เพื่อให้เลือดในตัวลูกวัวที่ค้างอยู่ได้ไหลออกไป ท่านอิบนุ อุมัร (ร.ฎ.) ก็ชอบให้กระทำเช่นนั้น (อ้างแล้ว หน้า 249) และเมื่ออนุญาตให้กินเนื้อของลูกวัวนั้นได้ ก็อนุญาตให้นำเนื้อของมันมาปรุงอาหาร หรือขาย หรือให้แก่ผู้อื่นได้ โดยไม่มีข้อห้ามในเรื่องนี้แต่อย่างใด

والله أعلم بالصواب