وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته
الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد
กลุ่มอัล-อาษารียะฮฺ (الآثاريَّة) ที่ถามถึงคือกลุ่ม “อัศหาบุลหะดีษ” (أَصْحَابُ الْحَدِيْثِ) ซึ่งเป็นกลุ่มนักปราชญ์ของอะฮฺลุสสุนนะฮฺ วัล-ญะมาอะฮฺที่เป็นนักรายงานหะดีษท่องจำและแต่งตำรที่เกี่ยวกับหะดีษ ยึดอัล-กุรอานและอัล-หะดีษเป็นหลักทั้งในด้านหลักการยึดมั่น (อะกีดะฮฺ) หลักนิติธรรม (ชะรีอะฮฺ) และจริยธรรม (มะการิม อัล-อัคลาก)
อิมามอัล-บุวัยฏียฺ (ร.ฮ.) กล่าวว่า : ฉันเคยได้ยินอัช-ชาฟิอียฺ (ร.ฮ.) กล่าวว่า : “พวกท่านจงยึดบรรดาอัศหาบุลหะดีษ เพราะแท้จริงพวกเขาเป็นกลุ่มชนที่ถูกต้องที่สุด”
และอิมามอัช-ชาฟิอียฺ (ร.ฮ.) กล่าวอีกว่า : คราใดที่ฉันเห็นคนหนึ่งจากอัศหาบุลหะดีษ ก็ประหนึ่งดังว่าฉันได้เห็นคนหนึ่งจากบรรดาสาวกของท่านรสูลลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอุลัยฮิวะสัลลัม) ขอพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงตอบแทนความดีให้แก่พวกเขา (อัศหาบุลหะดีษ) พวกเขาได้รักษาหลักมูลฐานไว้ให้แก่พวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงมีความดีความชอบเหนือพวกเรา” (อัล-หะดีษ วัลมุหัดดัษูน ; มุฮัมมัด มุฮัมมัด อบู ซะฮฺว์ หน้า 299)
อิมามอะหฺมัด (ร.ฮ.) กล่าวอธิบายถึงอัล-หะดีษที่ระบุว่า : “กลุ่มชนหนึ่งจากประชาคมของฉันยังคงได้รับการช่วยเหลือ” ว่า : “หากพวกเขาไม่เป็นอะฮฺลุลหะดีษแล้ว ฉันก็ไม่รู้ว่าใครคือพวกเขา (กลุ่มชนที่ได้รับการช่วยเหลือ)” (มะอฺริฟะฮฺ อุลูมิลหะดีษ ; อัล-หากิม หน้า 3)
อัล-อิสฟะรอยีนียฺ (ร.ฮ.) ระบุว่า “อัล-ญะมาอะฮฺ” (กลุ่มชนที่ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮูอะลัยฮิวะสัลลัม) ใช้ให้ยึดพวกเขาเอาไว้) คือ “อัศหาบุลหะดีษ” (อัต-ตับศีรฺ ฟิดดีน หน้า 114)
อัล-มุบารอกฟูรียฺ (ร.ฮ.) ถ่ายทอดคำกล่าวของอบูนุอัยมฺ (ร.ฮ.) ว่า : อัศหาบุลหะดีษ พวกเขานั้นอินชาอัลลอฮฺคือกลุ่มชนที่รอดพ้น (ฟิรฺเกาะฮฺ นาญิยะฮฺ) มุกอดดิมะฮฺ ตุหฺฟะฮฺ อัล-อะหฺวะซียฺ หน้า 14)
อัส-สะฟารีนียฺ (ร.ฮ.) ระบุว่า อะฮฺลุลอะษัรฺ คือบรรดากลุ่มชนที่ยึดหลักความเชื่อของพวกเขาจากสิ่งที่ถูกรายงานจากพระองค์อัลลอฮฺในคัมภีรฺของพระองค์หรือในสุนนะฮฺของท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) หรือสิ่งที่ชัดเจนและถูกต้องจากชนรุ่นสะลัฟ ศอลิหฺที่เป็นเศาะหาบะฮฺและอัต-ตาบิอีนโดยไม่มีการเพิ่มเติมของกลุ่มที่ตามอารมณ์และอุตริกรรมตลอดจนความคิดของพวกที่ใช้ทัศนะ (ละวามิอฺ อัล-อันวารฺ อัล-บะฮียะฮฺ หน้า 64 โดยสรุป)
จริงๆแล้วกลุ่มอัศหาบุลหะดีษ หรือที่เรียก อัล-อาษารียฺมีบรรดาอิมามที่เป็นนักวิชาการหะดีษ (อะอิมมะฮฺ อัล-หะดีษ) จำนวนมากที่เป็นผู้นำโดยบรรดาอิมามเหล่านี้มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาก่อนอิมามอะหฺมัด (ร.ฮ.) แต่เนื่องจากอิมาม อะหฺมัด (ร.ฮ.) เป็นผู้นำของอะฮฺลิสสุนนะฮฺ วัล-ญะมาอะฮฺที่ต่อสู้และยืนหยัดในหลักความเชื่อของอัศหาบุลหะดีษและเผชิญหน้ากับอิทธิพลของกลุ่มอัล-มัวะอฺตะซิละฮฺและพวกญะฮฺมียะฮฺจนกระทั่งกลายเป็นบุคคลสำคัญที่สุดในช่วงเวลาของท่าน นักวิชาการในรุ่นหลังจากท่านจึงถือว่าอิมาม อะหฺมัด (ร.ฮ.) เป็นอิมามของอะฮฺลิสสุนนะฮฺ วัล-ญะมาอะฮฺที่หลักความเชื่อของท่านคือมาตรฐานของการยึดถือและได้รับการถ่ายทอด แม้กระทั่งอิมาม อบุลหะสัน อัล-อัช-อะรียฺ (ร.ฮ.) และทั้งกลุ่มอะชาอิเราะฮฺ และมาตุ ฮีดียะฮฺก็อ้างว่าดำเนินตามแนวทางของอิมามอะหฺมัด (ร.ฮ.)
ส่วนหนึ่งจากบรรดาอิมามของอัศหาบุลหะดีษได้แก่ชนรุ่นอัต-ตาบิอีน ที่นคร มะดีนะฮฺ คือ
* สะอีด อิบนุ อัล-มุสัยยิบ (ฮ.ศ. 93)
* อบูบักรฺ อิบนุ อัซ-ซุบัยรฺ (ฮ.ศ. 94)
* อบูบักรฺ อิบนุ อับดิรฺเราะหฺมาน อิบนิ อัล-หาริษ อิบนิ ฮิชาม (ฮ.ศ. 94)
* อุบัยดุลลอฮฺ อิบนุ อับดิลลาฮฺ อิบนุ อุตบะฮฺ (ฮ.ศ. 99)
* สาลิม อิบนุ อับดิลลาฮฺ อิบนิ อุมัรฺ (ฮ.ศ. 106)
* สุลัยมาน อิบนุ ยะสารฺ (ฮ.ศ. 94)
* อัล-กอสิม อิบนุ มุฮัมมัด อิบนิ อบีบักรฺ (ฮ.ศ. 112)
* นาฟิอฺ เมาวฺลา อิบนิ อุมัรฺ (ฮ.ศ. 117)
* อิบนุ ชิฮาบ อัซ-ซุฮฺรียฺ (ฮ.ศ. 124) เป็นต้น
ที่นครมักกะฮฺ ได้แก่
* อิกริมะฮฺ เมาวฺลา อิบนิ อับบาส (ฮ.ศ. 105)
* อะฏออฺ อิบนุ อบีเราะบาหฺ (ฮ.ศ. 115)
* อบู อัซ-ซุบัยรฺ มุฮัมมัด อิบนุ มุสลิม (ฮ.ศ. 128)
ที่นครอัล-กูฟะฮฺ ได้แก่
* อัช-ชะอฺบียฺ อามิรฺ อิบนุ ชุรอหิล (ฮ.ศ. 104)
* อิบรอฮีม อัน-นะเคาะอียฺ (ฮ.ศ. 96)
* อัล-เกาะมะฮฺ อิบนุ กอยสฺ อิบนิ อับดิลลาฮฺ อัน-นะเคาะอียฺ (ฮ.ศ. 62)
ที่นครอัล-บัศเราะฮฺ ได้แก่
* อัล-หะสัน อิบนุ อบี อัล-หะสัน อัล-บะเศาะรียฺ (ฮ.ศ. 11)
* มุฮัมมัด อิบนุ สีรีน (ฮ.ศ. 110)
* เกาะตาดะฮฺ อิบนุ ดิอามะฮฺ อัด-เดาสียฺ (ฮ.ศ. 117) เป็นต้น
และในรุ่นถัดมาได้แก่ สุฟยาน อัษ-เษารียฺ , มาลิก อิบนุ อะนัส , อัล-เอาวฺซาอียฺ , ชุอฺบะฮฺ , อิบนุ อัล-มุบารอก , ยะหฺยา อิบนุ สะอีด , อับดุรเราะหฺมาน อิบนุ มะฮฺดียฺ , อิมามอัช-ชาฟิอียฺ และอิมาม อะหฺมัด อิบนุ หัมบัล (เราะหิมะฮุมุลลอฮฺ) เป็นต้น
บรรดานักวิชาการที่เป็นอัศหาบุลหะดีษเหล่านี้เป็นบรรดาอิมามของอะลิสสุนนะฮฺ วัล-ญะมาอะฮฺที่มีชีวิตอยู่ก่อนอิมาม อบุลหะสัน อัล-อัชอะรียฺ (ฮ.ศ. 324) ซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่มอะชาอิเราะฮฺ และก่อนอิมาม อบูมันศูร อัล-มาตุรีดียฺ (ฮ.ศ. 333) ผู้นำของกลุ่มอัล-มาตุรีดียะฮฺ
ส่วนมัซฮับอัซ-ซอฮิรียฺนั้น มีอบูสุลัยมาน ดาวูด อิบนุ อะลี อัล-อัศฟะฮานียฺ อัซ-ซอฮิรียฺเป็นผู้ก่อตั้งมัซฮับ บุคคลผู้นี้ถือกำเนิดที่นครอัล-กูฟะฮฺ ปีฮ.ศ. ที่ 202 และเสียชีวิตที่นครแบกแดด ปี ฮ.ศ. 270 เป็นนักท่องจำหะดีษและเป็นนักวิชาการฟิกฮฺระดับมุจญ์ตะฮิด มีมัซฮับเป็นเอกเทศหลังจากที่เคยสังกัดมัซฮับอัช-ชาฟิอียฺในนครแบกแดดมาก่อน
นักวิชาการที่สำคัญในมัซฮับอัซ-ซอฮิรียฺอีกคนหนึ่งคือ อบู มุฮัมมัด อะลี อิบนุ สะอีด อิบนิ หัซม์ อัล-อันดะลูสียฺ (ฮ.ศ. 384-456) เป็นเจ้าของตำราอัล-มุหัลลา ในวิชากฟิกฮฺ และตำราอัล-อิหฺกาม ฟี อุศูลิลลอะหฺกาม ในวิชาอุศูลลุลฟิกฮฺ มัซฮับอัซ-ซอฮิรียฺถือเป็นมัซฮับหนึ่งของอะฮฺลิสุสสุนนะฮ วัล-ญะมาอะฮฺที่เคนแพร่หลายในอัล-อันดุลุส (สเปน) และเริ่มเสื่อมลงในศตวรรษที่ 5 และสูญไปอย่างสมบูณณ์ในศตวรรษที่ 8 แห่งฮิจเราะฮฺศักราช (อัล-ฟิกฮุลอิสลามียฺ ว่า อะดิลละตุฮู ; ดร.วะฮฺบะฮฺ อัซซุหัยลียฺ 1/41 โดยสรุป)
والله اعلم بالصواب