ครอบครัวกีดกันทุกอย่างจากสามี ทำยังไงดี  (อ่าน 6421 ครั้ง)

alfeen

  • บุคคลทั่วไป
หากในตอนแรกมีการหนีไปนิกะห์กันที่อื่น  หลังจากนั้นกลับมาขอมาอัฟและจะให้นิกะห์จากวะลีย์(พ่อฝ่ายหญิง) แต่วะลีย์ไม่ยอม
ฝ่ายหญิงจึงออกจากบ้านไป  ตอนนี้ฝ่ายหญิงกำลังตั้งท้องใกล้คลอดอีกไม่นาน  ถูกบังคับจากครอบครัวให้อยู่บ้าน ถูกกีดกันไม่ให้เจอสามีไม่ให้ติดต่อใดๆเลย  เพื่อจะให้หลุดพ้นจากกัน  (เหมือนครอบครัวกำลังทำบาปที่ไม่ให้ฝ่ายหญิงกลับไปตออัตต่อสามี) ในกรณีแบบนี้ฝ่ายหญิงควรจะทำอย่างไรเพื่อคลี่คลายปัญหาทุกอย่าง.....

ญาซากัลลอฮฮุคอยรอนล่วงหน้าสำหรับคำตอบ
รบกวนตอบกลับผ่านอีเมลล์เพื่อความสะดวก

อาลี เสือสมิง

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2179
Re: ครอบครัวกีดกันทุกอย่างจากสามี ทำยังไงดี
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2015, 10:42:34 pm »
الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد   

เรื่องที่ถามมานี้ เป็นปัญหาของครอบครัวจำนวนมิใช่น้อยในสังคมมุสลิม ผมคงบอกหรือแนะนำได้เพียงแค่ว่าฝ่ายหญิงคงต้องอยู่บ้านและดูแลลูกในครรภ์ให้ดี ขอดุอาอฺให้อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงบันดาลให้ปัญหาที่เกิดขึ้นคลี่คลายไปในทางที่ดี ไม่แน่ว่าเมื่อคลอดลูกแล้วทุกอย่างอาจจะดีขึ้นก็ได้


ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงต้องทำใจยอมรับสภาพของปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นให้ได้ เพราะทั้งสองคนเป็นต้นเหตุของปัญหานั่นคือการหนีไปนิกะฮฺที่อื่นๆ ทั้งๆ ที่พ่อของฝ่ายหญิงก็อยู่ และหลังจากกลับมาขอมะอัฟจากพ่อที่เป็นวะลียฺแล้ว พ่อไม่ยอมนิกาห์ให้ใหม่ๆ (ทั้งๆ ที่นิกาห์ไปแล้วตอนที่พากันหนีไป) ฝ่ายหญิงก็หนีออกจากบ้านไปอีกก็เพราะฝ่ายหญิงไม่ฏออะฮฺเชื่อฟังพ่อในตอนแรก ฝ่ายชายก็ไม่ให้เกียรติพ่อของฝ่ายหญิง ปัญหาจึงเกิดขึ้นตามมา


การไปกล่าวหาครอบครัวของฝ่ายหญิงกำลังทำบาปที่ไม่ให้ฝ่ายหญิงกลับไปฏออะฮฺต่อสามีย่อมไม่สมเหตุสมผล เพราะก่อนที่ฝ่ายหญิงจะพากันหนีกับฝ่ายชายไปนิกาห์ที่อื่นนั้น ฝ่ายหญิงยังไม่ใช่ภรรยาแต่เป็นลูกสาวของพ่อที่จำต้องฏออะฮฺพ่อของเธอ ทำไมเธอจึงไม่ฏออะฮฺพ่อของเธอในตอนแรกเล่า? ปัญหาเกิดขึ้นแล้ว ย้อนเวลากลับไปไม่ได้ จึงต้องยอมรับสภาพและเก็บตัวอยู่ในบ้านจนกว่าจะคลอด คลอดแล้วก็อาจจะต้องรอเวลาอีกพักใหญ่ ฝ่ายชายก็ต้องรอเวลาและพากเพียรทำดีกับครอบครัวของฝ่ายหญิง ทำจนกว่าครอบครัวของฝ่ายหญิงจะเห็นใจและใจอ่อน


ที่สำคัญต้องยอมรับว่าตัวเองคือผู้ก่อเหตุแห่งปัญหา ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา ลองนึกดูสิว่า ถ้าตัวเองเป็นพ่อของลูกสาว ต่อมาลูกสาวก็หนีไปกับผู้ชายเพื่อไปนิกะฮฺที่อื่น ตัวเองรับได้หรือไม่? ถ้ารับไม่ได้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพ่อของฝ่ายหญิงจึงรับไม่ได้


ดังนั้น ฝ่ายชายจึงต้องยอมรับสภาพและอดทน การพรากและกีดกันนี้มิใช่เป็นการหย่า ตราบใดที่ถือว่าการนิกาห์ครั้งแรกที่พากันไปยังสถานที่อื่นใช้ได้แล้ว ก็ไม่ต้องนิกาห์ใหม่ และฝ่ายหญิงก็คือภรรยาที่ถูกต้อง ลูกในท้องก็คือลูกที่เกิดหลังจากการนิกาห์ที่ถูกต้อง ต่อให้พรากจากกันและถูกกีดกันนานสักเพียงใด ก็ย่อมไม่ขาดความเป็นสามีภรรยา ตราบใดที่ไม่มีการหย่าจากสามี ผมคงบอกกล่าวและชี้แนะได้เพียงแค่นี้ครับ

والله ولي التوفيق والهداية