สารบัญปัญหาคาใจ > หมวด : ญ่านาซะฮฺ
ละหมาดญานะซะห์
(1/1)
อาลี เสือสมิง:
อัสลามู่อ่าลัยกุม ครับ อ.อาลี
อ.ครับ เมื่อมุสลีมีนและมุสลิมะเสียชีวิตลงเราจะละหมาดญานะซะห์ที่บ้านก่อนสัก 4-5 คน แล้วจึงนำมัยยิตไปละหมาดรวมกันที่มัสยิด
จะได้หรือไม่ ตามหลักฐานและซุนนะห์ของท่านนบีมูฮัมหมัด ซ.ล.ทำแบบอย่างที่ถูกต้องไว้อย่างไร กรุณาช่วยตอบด้วยครับ
วัสลามูอ่าลัยกุม
ถามโดย - ซาอีด « เมื่อ: สิงหาคม 12, 2008, 05:45:57 am »
อาลี เสือสมิง:
الحمدلله رب العالمين والصلاة والسلام علىسيدالمرسلين وبعد
เกี่ยวกับเรื่องนี้ มีผู้ถามท่านชัยค์ อะฏียะฮฺ ซอกฺร์ (ร.ฮ.) อดีตประธานคณะกรรมการฟัตวาของมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร ดังมีระบุเอาไว้ในหนังสือ \"อะฮฺซ่านุ้ลกะลาม ฟิลฟะตะวา วัลอะฮฺกาม\" เล่มที่ 6 หน้า 642 ว่า : การละหมาดญะนาซะฮฺให้แก่มัยยิตก่อนมีการละหมาด (แบบญะมาอะฮฺ-ผู้ตอบ) ให้นั้นอนุญาตหรือไม่?
ท่านชัยคฺ ตอบว่า : การละหมาดญะนาซะฮฺให้แก่มัยยิตซ้ำของปัจเจกบุคคลนั้นไม่เป็นที่ต้องห้าม เนื่องจากไม่มีหลักฐานห้ามเอาไว้ อันที่จริงมันเป็นแค่มักโระฮฺ (ไม่บังควร) เท่านั้น หมายความว่า ใครที่ละหมาดญะนาซะฮฺแล้ว เป็นที่มักโระฮฺสำหรับเขาที่จะละหมาดญะนาซะฮฺอีกครั้งหนึ่ง, ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ละหมาดญะนาซะฮฺนั้นก็เป็นที่อนุญาตสำหรับเขาที่จะละหมาดญะนาซะฮฺหลังจากที่ผู้อื่นได้ละหมาดญะนาซะฮฺให้แก่มัยยิตนั้นแล้ว
มีปรากฏในหนังสือ \"ฟิกฮุ้ลมะซาฮิบฺ อัลอัรบะอะฮฺ\" กระทรวงเอาก๊อฟของอิยิปต์ตีพิมพ์เผยแพร่ว่า : การละหมาดญะนาซะฮฺซ้ำเป็นสิ่งไม่บังควร (มักโระฮฺ) ดังนั้นจะไม่มีการละหมาดญะนาซะฮฺนอกจากครั้งเดียว โดยการละหมาดญะนาซะฮฺครั้งแรกนั้นเป็นแบบญะมาอะฮฺ (ละหมาดรวมกัน)
ฉะนั้นถ้าหากมีการละหมาดญะนาซะฮฺในตอนแรกโดยไม่มีญะมาอะฮฺ ก็ส่งเสริมให้ละหมาดญะนาซะฮฺแบบญะมาอะฮฺซ้ำอีกครั้งตราบใดที่มัยยิตยังไม่ถูกฝัง ฝ่ายนักวิชาการสังกัดมัซฺฮับชาฟิอีย์ กล่าวว่า : มีซุนนะฮฺให้ละหมาดญะนาซะฮฺอีกครั้งหนึ่งสำหรับบุคคลที่ยังไม่ได้ละหมาดญะนาซะฮฺในตอนแรก ถึงแม้จะภายหลังการฝังมัยยิตแล้วก็ตาม
ฝ่ายนักวิชาการสังกัดมัซฮับฮัมบะลีย์ กล่าวว่า : อนุญาตให้ละหมาดญะนาซะฮฺซ้ำสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ละหมาดในตอนแรกแม้แต่ภายหลังการฝังมัยยิตแล้ว และเป็นที่มักโระฮฺในการละหมาดซ้ำสำหรับผู้ที่ละหมาดญะนาซะฮฺแล้วในตอนแรก (อ้างแล้ว หน้าเดียวกัน)
สรุปก็คือ การละหมาดญะนาซะฮฺที่บ้านก่อนที่จะนำมัยยิตไปยังมัสญิดนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ ไม่มีข้อห้ามแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม การละหมาดญะนาซะฮฺให้แก่มัยยิตด้วยคนจำนวน 4-5 คนนั้น นักวิชาการฟิกฮฺถือว่า ค้านกับสิ่งที่ดีกว่า (خِلاَفُ الأَوْلى) กล่าวคือ ไม่ถึงขั้นมักโระฮฺ (مَكْرُوْهٌ) เพราะเป็นการทำให้ผู้เสียชีวิต (มัยยิต) ตลอดจนผู้ละหมาดที่ชิงทำก่อนเสียโอกาสอันดีในการได้รับผลบุญที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
ทั้งนี้เพราะเป้าหมายหลักในการละหมาดญะนาซะฮฺคือการขอดุอาอฺให้แก่ผู้เสียชีวิตหลังการตักบีรครั้งที่ 3 เมื่อมีจำนวนผู้ร่วมละหมาดและขอดุอาอฺให้มากเพียงใด โอกาสในการตอบรับดุอาอฺก็ย่อมมีมากกว่าเพียงนั้น ดังมีปรากฏในหะดีษที่รายงานโดย อะฮฺหมัด, อบูดาวูด, อิบนุมาญะฮฺ และอัตติรมิซีย์ ซึ่งชี้ขาดว่าเป็นหะดีษหะซัน และอัลฮากิมซึ่งถือว่าเป็นหะดีษซอเฮียะฮฺ จากท่านมาลิก อิบนุ ฮุบัยเราะฮฺ ระบุว่า : \"ไม่มีผู้ศรัทธาคนใดที่เสียชีวิตลง แล้วมีกลุ่มชนชาวมุสลิมได้ละหมาดให้แก่เขามีจำนวนถึง 3 แถว นอกเสียจากได้ถูกอภัยโทษแล้วแก่มัยยิตนั้น\" และมีระบุในรายงานของมุสลิม, อะฮฺหมัด และอัตติรมิซีย์จากท่านหญิงอาอิชะฮฺ(ร.ฎ.) ว่า มีจำนวน 100 คน, ในอีกรายงานหนึ่งจากท่านอิบนุอับบาส (ร.ฎ.) ระบุว่า 40 คน
จึงเห็นได้ว่าการละหมาดญะนาซะฮฺโดยมีผู้เข้าร่วมละหมาดและขอดุอาอฺให้เป็นจำนวนมากนั้นย่อมเป็นสิทธิประโยชน์สูงสุดที่มัยยิตจะได้รับซึ่งการคำนึงถึงสิทธิประโยชน์ที่เป็นมัยยิตจะได้รับนั้นเป็นสิ่งที่พึงกระทำอย่างยิ่ง และตามซุนนะฮฺนั้นให้ละหมาดญะนาซะฮฺแก่มัยยิตโดยแบบญะมาอะฮฺ และทุกครั้งที่มีผู้ร่วมละหมาดเป็นจำนวนมาก นั่นก็ย่อมเป็นสิ่งประเสริฐที่สุด ดังหลักฐานจากหะดีษที่ระบุมาข้างต้น
วัลลอฮุอะอฺลัม
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
Go to full version