สารบัญปัญหาคาใจ > หมวด : การแต่งงาน มุสลิมะหฺ ครอบครัวและมรดก
ข้อสงสัย (ลูกซีนา)
(1/1)
อาลี เสือสมิง:
สลามครับท่านอาลี
คือว่ามีเรืองสงสัยเกียวกับลูกซีนา ว่าถ้าเป็นผู้หญิงนั้นสามารถเเต่งงานกับพ่อ
เเล้วในเรืองเสียน้ำหมาดนั้นมีข้อปรีกย่อยอะไรบ้างคับ เเล้วก็รายละเอียด
เกียวกับเรื่องนี้ลูกซินาด้วยครับ ขอขอบคุณท่านอ อาลีเป็นอย่างสูงครับ
ถามโดย อาเด็น « เมื่อ: ตุลาคม 10, 2008, 05:06:03 am »
อาลี เสือสมิง:
الحمد لله اللهم صل وسلم وبارك علىسيدنامحمد وعلىآله الطاهرين وبعد ؛
การกระทบผิวหนังของสตรีที่ไม่ห้ามแต่งงาน (อัจญ์นะบียะฮฺ) โดยไม่มีของกั้นนั้นถือว่าเสียน้ำละหมาดเนื่องจากกระทบหรือสัมผัสดังกล่าวตามมัซฮับอัชชาฟิอีย์ โดยพิจารณาเงื่อนไขในการกระทบหรือสัมผัส 5 ประการ คือ
1. เกิดขึ้นระหว่างคนต่างเพศกัน (ชาย-หญิง)
2. การกระทบสัมผัสนั้นโดนผิวหนัง ไม่ใช่ผม, ฟัน, เล็บ
3. ไม่มีของกั้นระหว่างผิวหนัง
4. แต่ละคนจากข้อ 1 นั้นบรรลุถึงขั้นที่มีอารมณ์ (ชะฮฺวะฮฺ) ทางเพศ หากคนหนึ่งบรรลุถึงวัยที่มีอารมณ์ทางเพศแล้ว ส่วนอีกคนหนึ่งยังไม่บรรลุก็ไม่ถือว่าเสียแต่อย่างใด
5. ไม่มีสภาพของการเป็นบุคคลที่ห้ามแต่งงานด้วย (มะฮฺร่อมียะฮฺ)
และตามทัศนะที่ถูกต้องที่สุด ณ อิหม่ามอัชชาฟิอีย์ (ร.ฮ.) ถือว่าการกระทบสัมผัสผู้ที่มิใช่มะฮฺรอม (ผู้ที่ห้ามแต่งงานด้วย) นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เสียน้ำละหมาดโดยไม่มีเงื่อนไข และอิหม่ามอันนะวาวีย์ (ร.ฮ.) ได้ชี้ขาดเอาไว้ในตำรา อัรเราเฎาะฮฺ และอื่น ๆ (ดู บุนญัยริมีย์ อะลัล ค่อฏีบ เล่มที่ 1 หน้า 186) เมื่อพิจารณาเงื่อนไขข้อที่ 5 ก็ทราบได้ว่าลูกผู้หญิงที่เกิดจากการซินา (ผิดประเวณี) ไม่ใช่มะฮฺรอมของผู้ที่ทำซินากับแม่ของนาง เพราะเป็นลูกผู้หญิงที่ถูกสร้างจากน้ำแห่งการซินาของเขา ไม่ว่าเขาจะรู้ข้อเท็จจริงว่านางเกิดจากน้ำ (อสุจิ) ของเขาหรือไม่ก็ตาม นางจึงเป็นที่ฮะล้าล (อนุมัติ) ในการแต่งงานสำหรับเขา เพราะนางเป็นหญิงอื่น (อัจญ์นะบียะฮฺ)
กล่าวคือ ไม่ถือเป็นฮุรมะฮฺ (เกียรติ-ศักดิ์และสิทธิ) สำหรับน้ำแห่งการซินาด้วยหลักฐานที่ว่าไม่มีผลใด ๆ ในการใช้ฮุก่มการสืบสายโลหิต (นะซับ) จากการรับมรดก (จากฝ่ายพ่อ) อันเกิดจากการทำซินาและฮุก่มอื่น ๆ เช่น การอนุญาตให้อยู่ในที่ลับตาคนสองต่อสอง การอนุญาตให้มองดูเอาเราะฮฺที่นอกเหนือจากสิ่งที่อยู่ระหว่างสะดือและหัวเข่า เป็นต้น (บุนญัยริมีย์ฯ เล่มที่ 3 หน้า 354-355) เมื่อนางมิใช่มะฮฺรอมของชายผู้นั้น การกระทบหรือสัมผัสด้วยผิวหนังของบุคคลทั้งสองโดยไม่มีของกั้นหรือคั่นกลาง จึงถือว่าเสียน้ำละหมาด ทั้งนี้เพราะหล่อนมิใช่ลูกสาวจริง ๆ ตามการสืบสายโลหิต (นะซับ) แต่ถือว่าหล่อนเป็นหญิงอื่น (อัจญ์นะบียะฮฺ) ที่อนุญาตให้ชายผู้นั้นแต่งงานด้วยได้
นี่เป็นทัศนะของนักวิชาการสังกัดมัซฮับอัลมาลิกียะฮฺที่รู้กัน (มัชฺฮู๊รฺ) และนักวิชาการสังกัดมัซฮับอัชชาฟิอีย์ (ดู อัชชัรฮุซซ่อฆีร 2/347, มุฆนีย์ อัลมุฮฺต๊าจญ 3/175, 419) โดยนักวิชาการทั้งสองกลุ่มนี้กล่าวว่า : แท้จริงการทำซินา, การมองและการสัมผัสนั้นเกียรติของการเกี่ยวดอง (มุซอฮะเราะฮฺ) ไม่มีการยืนยันด้วยสิ่งดังกล่าว ฉะนั้นผู้ใดทำซินากับหญิงคนหนึ่ง ก็ไม่ต้องห้ามที่เขาจะนิกาฮฺกับนางหรือแม่ของนางหรือลูกสาวของนาง และหญิงที่ถูกทำซินาด้วยนั้นก็ไม่เป็นที่ต้องห้ามต่อบุพการีย์และเชื้อสาย (คือลูกๆ) ของชายผู้ทำซินา และถึงแม้ว่าชายผู้นั้นได้ทำซินากับแม่ของภรรยาของเขา (แม่ยาย) หรือลูกสาวของนาง ภรรยาของเขาก็ไม่เป็นที่ต้องห้ามสำหรับเขา ...
แต่ทั้งหมดที่กล่าวมาถือเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ (มักรูฮฺ) กล่าวคือ การแต่งงานกับลูกสาวที่เกิดจากการซินา เป็นต้น ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ (มักรูฮฺ) เพื่อเป็นการออกจากการขัดแย้งกับทัศนะของนักวิชาการฝ่ายที่ว่าต้องห้ามในการนิกาฮฺกับนาง (ดู อัลฟิกฮุลอิสลามีย์ ดร.วะฮฺบะฮฺ อัซซุฮัยลีย์ เล่มที่ 7/135,บุนญัยริมีย์ฯ เล่มที่ 3/355) ฝ่ายที่ถือว่าต้องห้ามสำหรับชายผู้ทำซินาที่จะแต่งงานกับลูกสาวของตนที่เกิดจากการซินานั้น คือ นักวิชาการฝ่ายฮะนะฟียะฮฺ และฝ่ายฮัมบาลีย์ ซึ่งระบุว่า การทำซินาในกรณีนี้เป็นสิ่งที่ถูกผนวกเข้ามาในเรื่องการเป็นมะฮฺรอมเนื่องด้วยการเกี่ยวดอง (มุซอฮะเราะฮฺ) และถือว่ารูปสมมติที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ทั้งหมดเป็นที่ต้องห้าม (ดู อัลฟิกฮุลอิสลามีย์ อ้างแล้ว เล่มที่ 7 หน้า 134-135)
อนึ่งโปรดอย่าเข้าใจคลาดเคลื่อนว่านักวิชาการ 2 ฝ่ายแรกที่บอกว่าอนุญาตให้แต่งงานกับลูกสาวของตนที่เกิดจากการทำซินาและเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ (มักรูฮฺ) นั้นหมายความว่าการทำซินาเป็นสิ่งมักรูฮฺ หามิได้! การทำซินานั้นเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเด็ดขาด (ฮะรอมก็อฏอีย์) ด้วยตัวบทจากอัลกุรอาน, อัลหะดีษและอิจญ์มาอฺ เพียงแต่ว่าในกรณีที่เกิดการซินาแล้วนั้น ทำให้สภาพการเป็นมะฮฺรอมด้วยการเกี่ยวดอง (มุซอฮะเราะฮฺ) เกิดขึ้นระหว่างชายผู้ทำซินากับลูกสาวที่เกิดจากการซินาหรือไม่? อันนี้เป็นอีกประเด็นปัญหาหนึ่ง โปรดเข้าใจตามนี้จะได้ไม่สับสน
ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องสถานภาพของลูกซินานั้น มีรายละเอียดค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งคือ เมื่อเป็นลูกซินาก็ย่อมไม่มีสิทธิในการสืบสายโลหิตจากพ่อที่ทำซินานั้น และไม่มีสิทธิในการรับมรดก แต่การสืบสายโลหิตและสิทธิในการรับมรดกจะมีจากฝ่ายแม่เพียงเท่านั้น อย่างนี้ เป็นต้น
والله أعلم بالصواب
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
Go to full version