เกณฑ์วัดการเลียนแบบตะวันตก  (อ่าน 4578 ครั้ง)

อาลี เสือสมิง

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2179
เกณฑ์วัดการเลียนแบบตะวันตก
« เมื่อ: ตุลาคม 09, 2010, 03:15:42 pm »
อะไรคือขอบเขตการเลียนแบบ(ตะ ชับบุฮฺ)ชาวตะวันตก ? ทุกสิ่งที่ใหม่และเก่าที่มาจากตะวันตกและถูกใช้ในสังคมเราล้วนเป็นการลอก เลียนแบบพวกเขาหรือไม่?


ถามโดย - ฮาซัน  « เมื่อ: กันยายน 11, 2008, 07:26:35 pm »

อาลี เสือสมิง

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2179
Re:เกณฑ์วัดการเลียนแบบตะวันตก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2010, 03:16:37 pm »
الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد ؛


การเลียนแบบ (อัตตะชับบุฮฺ)  ชนกลุ่มอื่นที่มิใช่มุสลิมนั้น  นักวิชาการได้แบ่งประเภทออกเป็น  2  ประเภท  กล่าวคือ

1.  การเลียนแบบที่อนุญาต (อัลญะวาซฺ) อาทิเช่น การเอาประโยชน์จากวิทยาการที่มีประโยชน์และอารยธรรมความเจริญของสังคมมนุษย์  เช่น การแพทย์, สถาปัตยกรรม, ฟิสิกส์, เคมี, อาวุธยุทธภัณฑ์  ฯลฯ ทั้งนี้เพราะเข้าอยู่ในนัยของหะดีษที่รายงานโดยอิบนุมาญะฮฺ  ว่า : \"การแสวงหาความรู้นั้นเป็นภารกิจจำเป็นเหนือมุสลิมทุกคน\"  และเข้าอยู่ในนัยกว้างๆ ของพระดำรัสที่ว่า  \"และสูเจ้าทั้งหลายจงตระเตรียมสำหรับพวกเขา  (ศัตรูของสูเจ้าทั้งหลาย)  ซึ่งสิ่งที่พวกท่านมีความสามารถจากพลัง...\"  (อัลอัมฟาลฺ  :  61)


2.  การเลียนแบบที่เป็นที่ต้องห้าม  (อัตตะฮฺรีม)  ดังกล่าวคือการเลียนแบบในด้านวิถีชีวิต , จริยธรรม , ประเพณีและจารีตต่าง ๆ อันเป็นสิ่งที่แปลกแยกจากวิถีทางของอิสลามและขัดแย้งกับอัตลักษณ์เฉพาะของประชาคมมุสลิมตลอดจนโครงสร้างทางจริยธรรม  ทั้งนี้เป็นเพราะสิ่งดังกล่าวจะนำพาไปสู่การสูญเสียอัตลักษณ์, บุคลิกภาพและความภาคภูมิใจในความเป็นมุสลิม  

(เก็บความจากตัรบียะตุ้ลเอาล๊าด ฟิล อิสลาม ; อับดุลลอฮฺ นาซิฮฺ อัลวาน ; เล่มที่ 1 หน้า 142-143)


ดังนั้นขอบเขตของการเลียนแบบชาวตะวันตกหรือชาวตะวันออกที่มิใช่มุสลิมนั้นขึ้นอยู่กับว่า  สิ่งที่ลอกเลียนแบบนั้นเป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักคำสอนของศาสนาอิสลามหรือไม่!  เป็นสิ่งเฉพาะเจาะจงสำหรับกลุ่มชนนั้น ๆ ในเชิงของศาสนา  ความเชื่อ  และวิถีปฏิบัติหรือไม่  อาทิเช่น  การแต่งกายที่เป็นเครื่องบ่งชี้และแบ่งแยกชนกลุ่มนั้นออกจากชนกลุ่มอื่น  เป็นต้นว่า  การสวมใส่ชุดจีวร  การแต่งกายของนักการศาสนา  ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม  ในบางครั้งวิถีปฏิบัติที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะกลุ่มซึ่งมิใช่มุสลิม เช่น การไว้หนวดโดยไม่มีการตัดให้สั้น  การไม่ไว้เคราก็เป็นสิ่งที่ศาสนาเรียกร้องให้ชาวมุสลิมกระทำสิ่งที่แตกต่างจากกลุ่มชนที่กระทำเช่นนั้น  กล่าวคือ  ให้ตัดหนวดให้สั้น  ให้ไว้เครานั่นเอง  ฉะนั้นสิ่งใดที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะของชนมุชริก , มะญูซ , ยะฮูดี และนัศรอนี จึงเป็นสิ่งที่มุสลิมจำต้องหลีกห่างจากการเลียนแบบกลุ่มชนดังกล่าว ดังมีระบุไว้ในพระวจนะของท่านศาสดา (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)


มุสลิมจำต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง มีอัตลักษณ์บนพื้นฐานของกรอบหลักการที่ศาสนาได้กำหนดวางเอาไว้อย่างเคร่งครัด สิ่งที่เป็นวัฒนธรรมของตะวันตกนั้นมีทั้งดีและไม่ดี มีทั้งสิ่งที่สอดคล้องกับหลักคำสอนของศาสนา อาทิเช่น การรักษาสุขภาวะ ความมีอนามัย การดูแลรักษาสุขภาพ การมีระเบียบวินัย สิ่งเหล่านี้จริง ๆ แล้วมีอยู่ในหลักคำสอนของศาสนา เพียงแต่มุสลิมในปัจจุบันละเลยและไม่ได้นำมาปฏิบัติอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม เมื่อมุสลิมปฏิบัติสิ่งเหล่านี้เหมือนอย่างชาวตะวันตกก็ไม่ถือว่าเป็นการเลียนแบบที่ต้องห้ามแต่อย่างใด


ในส่วนของวัฒนธรรมที่มาจากตะวันตกซึ่งขัดต่อหลักคำสอนของศาสนานั้น มุสลิมก็จำต้องยึดหลักคำสอนของศาสนาเป็นมาตรฐาน มิใช่หลับหูหลับตาลอกเลียนแบบเอาอย่าง อาทิเช่น การเปิดเผยเอาเราะฮฺในการแต่งกาย การผสมปนเประหว่างคนต่างเพศ การใช้ชีวิตเสเพล เที่ยวกลางคืน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นที่ต้องห้ามโดยเด็ดขาด มุสลิมที่ดีจึงต้องรู้จักเลือกในการกิน การดื่ม การแต่งกาย การใช้ชีวิตตามกรอบหลักการของศาสนาไม่หลงไปตามกระแส หรือทำตัวเป็นคนไร้จุดยืน ซึ่งศาสนาเรียกว่า อิมมะอะฮฺ (اِمَّعَةٌ)


กล่าวคือ ใครเขาทำอะไรกันอย่างไร เราก็เอากับเขาด้วยโดยไม่พิจารณาว่าถูกหรือผิด ทุกสิ่งที่ใหม่และเก่านั้นถึงแม้ว่าจะมีต้นตอที่มาจากตะวันตกและถูกใช้ในสังคมของเรานั้นก็มิได้หมายความว่าเป็นที่ต้องห้ามไปเสียทั้งหมด หากแต่ปะปนกันไประหว่างสิ่งที่สอดคล้องกับหลักการและสิ่งที่ขัดต่อหลักการ ดังนั้นการใช้ดุลยพินิจในการเลือกนำมาใช้ นำมาปฏิบัตินั้นจึงต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อชี้ขาดตามหลักนิติธรรมอิสลามเป็นสำคัญ ขอย้ำ!


والله أعلم