ดัจจาลนั้น มีถึง 30 ตน จริงหรือ หากใช่แล้ว มีใครบ้างครับ  (อ่าน 5034 ครั้ง)

อาลี เสือสมิง

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2179
قال رسول الله صلى الله عليه وسلم:\" إن بين يدي الساعة
ثلاثين دجالا كذابا \" رواه احمد في مسنده وصححه الالباني في الصحيحة
จากหะดีษข้างต้น ท่านนบี ได้บอกว่าจะมีดัจจาลถึง 30 ตน ในประเด็นบรรดาอุลามาอฺได้กล่าวไว้อย่างไรบ้าง
เคยอ่านพบในอินเตอร์เน็ตบอกว่า มี มุซัลลิมะห์ อัลกัซซาบ . ฆุลาม อะห์หมัด หัวหน้าลัทธิกอดยานีย์ เป็นหนึ่งในบรรดาดัจจาลนั้น
      อาจารย์อาลี ช่วยอธิบายหะดีษนี้หน่อยครับ ว่าเป็นอย่างไร
                            ญะซากัลลอฮุคอรรอน วะคอยรอนญะซาิอฺ

ถามโดย - ซัยดุน « เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 07:13:24 pm »

อาลี เสือสมิง

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2179
الحمدلله والصلاة والسلام على رسول الله وبعد...


คำว่า  ดัจญ้าล  (دَجَّالٌ)  หมายถึง  คนที่โกหกมุสา  (كَذَّابٌ)  ที่เรียกคนโกหกมุสาว่า  ดัจญ้าล  เป็นการเปรียบเปรยกับน้ำทอง  ซึ่งเป็นรากศัพท์เดิม  เนื่องจากน้ำทองที่เคลือบโลหะมันทำให้ลักษณะภายนอกของโลหะดูเหมือนว่าเป็น ทอง  ทั้ง ๆ ที่เนื้อโลหะอาจจะเป็นเพียงสังกะสีเท่านั้น  คำว่า  อัดดัจญ์ลุ้  (الدَّجْلُ)  จึงหมายถึงการโกหกหรือการสร้างความสับสนหรือการหลอกลวง  (التَّلْبِيْسُ)


และส่วนหนึ่งจากบรรดาสัญญาณหรือเครื่องหมายของกิยามะฮฺเล็ก  (القِيَامَة الصُّغْرى)  ก็คือการปรากฏขึ้นของบรรดากลุ่มคนที่โกหกมุสาและหลอกลวงผู้คนด้วยการกล่าว อ้างว่าพวกตนเป็นนบีและมีการวะฮีย์หลักศาสนบัญญัติใหม่หลังจากหลักศาสน บัญญัติของศาสนาอิสลาม  ดังปรากฏในหะดีษซ่อฮีฮฺมุสลิมรายงานจากท่านเซาบานฺ  ว่า  ท่านนบี  (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)  ได้กล่าวว่า  :  “แท้จริงจะมีพวกโกหกมุสาเกิดขึ้นในประชาชาติของฉันจำนวน  30  คน   ทั้งหมดอ้างว่าตนเป็นนบี  และฉันเป็นนบีคนสุดท้ายของบรรดานบีทั้งหลาย  ไม่มีนบีคนใดอีกหลังจากฉัน” ในหะดีษนี้ระบุว่า  มีพวกโกหกมุสาจำนวน  30  คน


ส่วนในซ่อฮีฮฺอัลบุคอรีย์และมุสลิม  รายงานจากอบูฮุรอยเราะฮฺ  (ร.ฎ.)  ว่า  ท่านร่อซู้ล  (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)  กล่าวว่า  :  “วันโลกาวินาศจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะมีพวกลวงโลกที่โกหกมุสาเกือบ  30  คนถูกส่งมา  ทั้งหมดจะอ้างว่าตนเป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺ”  (ฟัตฮุ้ลบารีย์  13/81)  ในมุสนัดของอิหม่ามอะฮฺหมัดและตำรามุชกิลุ้ลอาซ๊ารของอัฏฏ่อฮาวีย์ตลอดจนมุ อฺญัม  อัตตอบรอนีย์  ทั้งอัลกะบีรและอัลเอาซัฏมีสายรายงานซ่อฮีฮฺจากท่านฮุซัยฟะฮฺ  (ร.ฎ.)  จากท่านนบี  (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)  ว่า  :  ในประชาชาติของฉันมีบรรดาผู้โกหกมุสาและพวกลวงโลก  27  คน  ส่วนหนึ่งเป็นหญิง  4  คน  และแท้จริงฉันคือบุคคลสุดท้ายของบรรดานบีทั้งหลาย  ไม่มีนบีอีกแล้วหลังจากฉัน  (ซิลซิละฮฺ  อัลอะฮาดีษ  อัซซ่อฮีฮะฮฺ  :  4/654  เลขที่  1999)


บรรดาผู้โกหกมุสาและลวงโลกเหล่านี้  ซึ่งมีจำนวน  27-30  คน  ตามที่มีรายงานในตัวบทหะดีษเป็นคนละเรื่องกับอัลมะซีฮฺ  อัดดัจญ์ญ้าล  (اَلْمَسِيْحُ الدَّجَّالُ)  ซึ่งอยู่ในเรื่องของสัญญาณหรือเครื่องหมายวันกิยามะฮฺใหญ่  (العلامَاتُ الكُبْرى)  อันเป็นฟิตนะฮฺที่ใหญ่ที่สุดที่มนุษยชาติในยุคสุดท้ายจะได้พบ  ส่วนพวกโกหกมุสาและลวงโลก  (الدجالون الكذابون)  นั้นเริ่มมีปรากฏมานับแต่ยุคต้นอิสลามแล้ว  ในหะดีษที่รายงานจากท่านญาบิร  อิบนุ  อับดิลลาฮฺ  (ร.ฎ.)  จากท่านร่อซู้ล  (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)  นั้นมีการระบุชื่อบุคคลส่วนหนึ่งเอาไว้  คือ  ซอฮิบุ้ลยะมามะฮฺ  ซึ่งก็คือ  มุซัยลิมะฮฺ  อัลกัซซ๊าบ  ซอฮิบุซอนอาอฺ  คือ  อัลอัสวัด  อัลอันซีย์แห่งนครซอนอาอฺของยะมัน,  ซอฮิบุ้  ฮิมยัรและในหะดีษนี้นับ  อัลมะซีฮุ้ด  ดัจญ์ญ้าล  เอาไว้ในทำเนียบด้วย  (อะหฺหมัด  3/345,  อิบนุ  ฮิบบาน  เลขที่  6650  อัลอิฮฺซาน/อัลบัซฺซ๊าร  (3375))  ส่วนผู้หญิงก็เช่น  สุญ๊าฮฺ  บินตุ  อัลฮาริษ  จากเผ่าตัฆลับ,


นอกจากนี้ก็มีฏุลัยฮะฮฺ  อัลอะสะดีย์,  อัลมุคต๊าร  อัซซะกอฟีย์,  อัลมุ่ฆีเราะฮฺ  อิบนุ  สะอีด,  อบูมันซู๊ร  อัลอัจญ์ลีย์,  บะยาน  อิบนุ  ซัมอาน  อัตตะมิมีย์,  อัลฮาริษ  อิบนุ  สะอีด  อิสหาก  อัลอัคร็อซ,  อับดุลลอฮฺ  อิบนุ  มัยมูน,  มะฮฺมูด  อิบนุ  ฟะรอจญ์  อันนัยซะบูรีย์,  อัลมันซู๊ร,  อบูสะอีด  อัลลิฮฺยานีย์,  อบูเญาว์ฟ์,  ฮามีม  อัลมะฮฺกอซีย์,  อบูอัตตอยยิบ  อัลมุตะนับบีย์,  อัลอัซฟัร  อัตตัฆละบีย์,  อัลฮุซัยน์  อิบนุ  ฮัมดาน  อัลคุซอยบีย์  เป็นต้น  (อะลามาตเยาว์มิลกิยามะฮฺ  อัซซุฆฺรอ,  มุฮำหมัด  บัยยูมีย์  หน้า  19-44)  ในอิหร่านก็มีฮุซัยน์  อิบนุ  อะลี  อิบนิ  อัลมิรซา  อับบ๊าส  กล่าวอ้างว่าตนเป็นนบี  มีฉายาว่า  บะฮาอุ้ลลอฮฺ  เป็นต้น


กำเนิดลัทธิบาไฮย์ในเวลาต่อมาและมะฮฺมูด  มุฮำหมัด  ตอฮา  ชาวซูดาน  ซึ่งอ้างตนว่าเป็นนบีถูกรัฐบาลซูดานสั่งประหารชีวิตในปีคศ.1985  (อัลกิยามะฮฺ  อัซซุฆรอ  :  ดร.อุมัร  สุลัยมาน  อัลอัชก๊อร,  ดารุนนะฟาอิซ  (2000)  หน้า  162-163)  ที่ไล่ลำดับรายชื่อมานี้ยังไม่ครบตามจำนวนคือ  27-30  คน  ซึ่งคงจะมีปรากฏออกมาเรื่อย ๆ และสิ้นสุดลงด้วยลำดับสุดท้ายคือ  อัลมะซีฮฺ  อัดดัจญ์ญ้าล  ซึ่งเป็นตัวที่ร้ายกาจและลวงโลกได้จังที่สุด


وأعاذناالله من فتنة المسيح الدجال
والله أعلم بالصواب