อบูบักร อัรรอซีย์ (أبوبكرالرازي)
อัรรอซีย์ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของตนในมหานครแบกแดดและเสียชีวิตที่นั่น เขาเป็นพหูสูตที่รอบรู้ศาสตร์แขนงต่างๆ เป็นที่ทราบกันว่า ในช่วงต้น อัรรอซีย์เคยประกอบอาชีพเป็นพ่อค้าแลกเงินและเคยเล่นเครื่องดนตรีอูด (เครื่องดนตรีของชาวอาหรับมีลักษณะคล้ายกีต้าร์) อัรรอซีย์เป็นผู้ที่ถูกร่ำลือถึงความมีสัจจะและความโปร่งใสนับแต่วัยเด็ก เขารังเกียจการสับปลับ การโอ้อวดและการอวดอ้างอุตริกรรม ในวัยเด็กเขาเคยแต่งบทกวีอีกด้วย
อัรรอซีย์ให้ความสนใจในการศึกษาวิชาปรัชญา, ดาราศาสตร์, เคมี, คณิตศาสตร์ และการแพทย์ ด้วยศักยภาพของเขาในการแต่งตำรับตำราที่อาศัยการค้นคว้าทางวิชาการเป็นหลัก ทำให้เขามีความโด่งดังเป็นอันมาก ในขณะที่เขาอาศัยข้อมูลอ้างอิงทางวิชาการของอินเดีย เปอร์เซีย, กรีกหรืออาหรับ อัรรอซีย์ก็จะระบุที่มาเอาไว้ในตำราของตนโดยจะไม่มีการแอบอ้างสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ผู้อื่นกล่าวเอาไว้ให้กับตนเอง
อบูบักรฺอัรรอซีย์ได้ศึกษาตำรับตำราของญาบิร อิบนุ ฮัยยาน อัลอะซะดีย์ ซึ่งยังคงมีเงื่อนงำในบางประเด็นปรากฏอยู่ในขณะที่ข้อมูลบางส่วนก็ถูกตีแผ่และได้รับการอธิบายไว้อย่างชัดเจน เหตุนี้เราจึงพบว่า อบูบักร อัรรอซีย์ ได้แก้ประเด็นเงื่อนงำที่ปรากฏในตำราของญาบิร และให้ความสำคัญต่อการเรียบเรียงและการใช้คำศัพท์เทคนิคที่ละเอียดรัดกุม ตำราของอัรรอซีย์จึงเป็นตำราที่ง่ายและสะดวกต่อการทำความเข้าใจ
อัรรอซีย์เป็นนักปราชญ์ชาวอาหรับมุสลิมผู้หนึ่งที่ให้ความสนใจอย่างยิ่งยวดต่อวิชาเคมี เขามีความโดดเด่นเหนือปราชญ์ผู้อื่นด้วยการใช้สำนวนอย่างเป็นวิชาการซึ่งอาศัยการทดลองและการพิสูจน์ในห้องทดลองเป็นหลัก เหตุนี้เองนักวิชาการทั้งฝ่ายตะวันออกและฝ่ายตะวันตกต่างก็ให้การยอมรับและถือว่าอัรรอซีย์เป็นผู้วางรากฐานของวิชาเคมียุคใหม่
(1) ความรู้เกี่ยวกับวิชาว่าด้วยสรรพคุณของยาหรือเภสัชศาสตร์ หรือโอสถวิทยา(Pharmacology)
(2) ความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์และเครื่องมือ
(3) ความรู้เกี่ยวกับการทดลองและการพิสูจน์
เป็นที่ทราบกันว่า อัรรอซีย์ คือ บุคคลแรกที่ใช้ถ่านที่ได้จากการเผาซากสัตว์ (Animal charcoal) ในการขจัดสีและกลิ่นจากสารหรือวัตถุที่มีชีวิต (organic) และเขายังเป็นผู้ที่แยกสารคาร์บอนของโซเดียมและโปตัสเซียมเป็นบุคคลแรก ถึงแม้ว่าสารทั้ง 2 ชนิดจะมีความเหมือนกันมากในคุณสมบัติเฉพาะทางธรรมชาติและเคมี นอกจากนี้อัรรอซีย์ยังเป็นผู้ค้นพบกรดกำมะถันและแอลกอฮอล์ อีกทั้งยังเป็นบุคคลแรกที่ใช้สารปรอทในการผสมยาขี้ผึ้ง (ointment)
อบูบักร อัรรอซีย์ ได้แบ่งประเภทของสารเคมีออกเป็น 4 ประเภท คือ
– สารเคมีที่ได้จากแร่ธาตุ
– สารเคมีที่ได้จากพืช
– สารเคมีที่ได้จากสัตว์และสิ่งมีชีวิต
– ยาปฏิชีวนะ
และเขายังได้แบ่งธาตุออกเป็น 6 หมวด คือ
– สารระเหยหรือธาตุที่ลอยตัว
– โลหะ (metal)
– หิน
– กระจก
– เกลือ
– ธาตุที่เรืองแสง
อัรรอซีย์ได้ขลุกอยู่กับการแต่งตำรับตำราเป็นเวลานาน เขาแต่งตำรามากถึง 220 เล่ม ซึ่งเป็นตำราในศาสตร์แขนงต่างๆ เช่น การแพทย์ , เคมี , คณิตศาสตร์ , ปรัชญา , ตรรกวิทยา และดาราศาสตร์ เป็นต้น